ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เดินหน้ากลยุทธ์ The Next REAL Change สำหรับธุรกิจลูกค้าบุคคล ปี 2566 เติบโตต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้และชื่นชอบจนต้องบอกต่อ พร้อมพัฒนาทุกโซลูชั่น ยกระดับชีวิตทางการเงิน พร้อมขยายฐาน 4 กลุ่มลูกค้า คือ Wealth มนุษย์เงินเดือน คนมีรถ และคนมีบ้าน ตั้งเป้าปี 2566 รายได้จากกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยโต 10%
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจลูกค้าบุคคลในปี 2566 ว่า ยังคงเดินหน้านำจุดแข็งและความแข็งแกร่งจากการรวมกิจการมาต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้า มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้และชื่นชอบจนต้องบอกต่อ ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
1. ขยายฐานลูกค้าบุคคล ด้วยการพัฒนา นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมทั้งโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าทั้ง 4 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่ม Wealth (กลุ่มลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง) โดยยึดโยงลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ttb reserve เพื่อสร้างความแตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการให้ลูกค้า Wealth กว่า 40,000 ราย ที่ถือครองมูลค่าทรัพย์สินรวมกับธนาคารกว่า 650,000 ล้านบาท ซึ่งให้บริการรวมถึงเรื่องการลงทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดพอร์ตการลงทุนคอยดูแล
- กลุ่มพนักงานเงินเดือน โดยการนำเสนอสินเชื่อสวัสดิการช่วยลดภาระหนี้ ในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับแผนประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงมีแคมเปญเคลียร์หนี้พิเศษอย่างต่อเนื่อง
- กลุ่มลูกค้าที่มีรถ มีบริการสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ทั้ง รถใหม่ รถมือสอง รถแลกเงิน รวมไปถึงประกันคุ้มครองรถ และโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ พร้อมเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มรถโดนใจ
- กลุ่มคนมีบ้าน นำเสนอแผน Refinance และสินเชื่อบ้านแลกเงิน ด้วยการอนุมัติสินเชื่อที่ง่าย และรวดเร็ว รวมไปถึงโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ จากพันธมิตรของธนาคาร
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์จากความต้องการของลูกค้า ภายใต้แนวคิดเพื่อให้ลูกค้า ฉลาดออมฉลาดใช้ รอบรู้เรื่องกู้ยืม ลงทุนเพื่ออนาคต มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ลูกค้าตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิต ทั้งบัญชีเงินฝากเพื่อออม บัญชีเพื่อใช้ บัญชีเงินฝากให้อัตราดอกเบี้ยสูง บัตรเครดิตที่เหมาะสมในแต่ละ Lifestyle
นอกจากนี้ ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น การรวบหนี้เพื่อลดภาระหนี้ให้กับลูกค้า (Debt Consolidation) ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงิน รถแลกเงิน พร้อมมีแผนการลงทุนเพื่ออนาคต จากกองทุนรวมหลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของลูกค้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ประกันที่ช่วยวางแผนความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ โดยมีแผนในการจัดตั้ง ทีทีบี โบรกเกอร์ ภายในปีนี้
3. ยกระดับช่องทางการขายและการให้บริการ เพื่อให้เป็น Top 3 Digital Banking Platform บนฐานลูกค้าปัจจุบันกว่า 5 ล้านคน บนแอป ttb touch โฉมใหม่ ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการ และโปรโมชันต่าง ๆ ให้ลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 หรือ Segment-of-One ซึ่งปีที่ผ่านมาการทำธุรกรรมผ่าน ttb touch เพิ่มขึ้น 26% ขณะที่การทำธุรกรรมที่สาขาลดลง 7%
ดังนั้นในปีนี้ จึงเพิ่มการให้บริการผ่าน ttb touch มากขึ้น ทั้ง การบริหารจัดการภาษี การขายรถ การบอกสิทธิประโยชน์ลูกค้า และยกระดับความปลอดภัยด้วยการเตือนการตรวจพบแอปฯที่ไม่ปลอดภัย โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้แอป ttb touch เป็น 6.5 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน
นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนสาขารูปใหม่ เป็นสาขาดิจิตอลเต็มรูปแบบในเร็วๆนี้ เพื่อตอบโจทย์ยุคดิจิทัล Cashless and Paperless Society และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของสาขา และตู้เอทีเอ็ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในทุกช่องทาง
4.ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการใช้ข้อมูล ปัจจุบัน ttb ใช้ข้อมูลมาวางแผนเรื่องต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการในแต่ละผลิตภัณฑ์มาวิเคราะห์โอกาสทางการขาย เพื่อนำเสนอได้ตรงตามความต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม รวมไปถึงการใช้ข้อมูลเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การจัดการบริหารความเสี่ยง เพื่อพิจารณาการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้อย่างมีคุณภาพ
นายฐากร กล่าวถึงเป้าหมายกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยในปี 2566 ว่า คาดว่ารายได้ของกลุ่มนี้จะเติบโตประมาณ 10% จากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีปัจจัยที่ดีขึ้น โดยขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านราย จากลูกค้าปัจจุบัน 10 ล้านราย เงินฝากเพิ่มขึ้น 50,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 68,000 ล้านบาท
“ด้วยศักยภาพและความพร้อมของธนาคาร ผสานกับกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้านที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการและโซลูชันที่ครบถ้วน ตรงใจลูกค้า จะทำให้ TTB เป็นธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้และชื่นชอบจนต้องบอกต่อ และสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง” นายฐากร กล่าวสรุป