ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สานต่อพันธกิจ The Bank of Financial Well-being มุ่งสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ด้วยแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 2566 ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ยกระดับ ttb touch เวอร์ชันใหม่ พร้อมสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้ากลุ่มพนักงานเงินเดือน คนมีรถ คนมีบ้านให้ดีขึ้นรอบด้าน ด้วย Ecosystem Play เน้นการทำงานจากทั้งทีมภายในและความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2566 ว่า ยังคงมุ่งสานต่อพันธกิจ The Bank of Financial Well-being ด้วยการสร้าง The Next REAL Change เดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในรูปแบบใหม่อีกครั้ง ภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 เรื่อง ได้แก่
1. Synergy Realization: นำความแข็งแกร่งจากการรวมกิจการมาต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้า หลังรวมกิจการทีเอ็มบีธนชาต แข็งแกร่งด้วยฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย สะท้อนผลประกอบการปี 2565 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 14,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนหน้า และค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการรับรู้ Cost Synergy ของการรวมกิจการ ทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงจาก 48% ในปี 2564 มาอยู่ที่ 45% วันนี้ธนาคารจึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งและงบประมาณในการลงทุน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า
จากเดิมธนาคารมีสินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน บัญชีเพื่อใช้ เพื่อออม และบัญชีเงินเดือน ปีนี้จะต่อยอดไปสู่สินเชื่อรถแลกเงิน (ttb cash your car) สินเชื่อบ้านแลกเงิน (ttb cash your home) สินเชื่อ ttb payday loan และกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถ
2. Digitalization: ยกระดับประสบการณ์ทางการเงินและพัฒนาประสิทธิภาพของธนาคารผ่าน ttb touch เวอร์ชันใหม่ มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็น Top 3 Digital Banking Platform โดยยกระดับและขยายขีดความสามารถของ ttb touch ให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรอบด้าน ซึ่ง ttb touch เวอร์ชันใหม่ ที่เปิดตัวไตรมาส 2/2565 มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 46% และจำนวนรายการธุรกรรมบนแอปเติบโตขึ้น 25% พร้อมทั้งแก้ไขปรับปรุงแก้ไขวางแผนพัฒนาความสามารถในการรองรับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนมีความเสถียรและสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยศักยภาพของ ttb touch เวอร์ชันใหม่ จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 หรือ Segment-of-One โดยจะเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เป็น Digital-First Experience เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมส่วนใหญ่ผ่าน ttb touch ขณะที่พนักงานสาขาจะเป็น Trusted Advisor ให้คำปรึกษา แนะนำและให้บริการลูกค้าบนผลิตภัณฑ์และบริการที่ซับซ้อน
3. Ecosystem Play: การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าบัญชีเงินเดือน มีรถ มีบ้านให้ดีขึ้นรอบด้าน
Ttb สร้างการเติบโตด้วย New Business Model มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนมีรถ และกลุ่มคนมีบ้าน โดยเข้าไปอยู่ในชีวิตของลูกค้าตลอด Journey และช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการเรื่องสำคัญได้อย่างรอบด้าน โดยมี ttb touch เป็นตัวขับเคลื่อน อาทิ คนมีรถสามารถบริหารจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับรถ เช่น จ่าย-เช็คยอดสินเชื่อรถ ต่อประกันภัยรถและพรบ. เติมเงิน-เช็คยอดบัตรทางด่วน Easy Pass ค้นหาโปรโมชันเกี่ยวกับการดูแลรถ สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน แม้กระทั่งการขายรถแบบ e-auction ทุกอย่างสามารถทำบนฟีเจอร์ “My Car” บนแอป ttb touch ได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ ยังเพิ่มศักยภาพและจำนวนทีมงานด้าน Tech & Data ปัจจุบันมีทีมงาน ttb spark มากกว่า 400 คน ดูแลทั้งในส่วนของฝั่ง Tech และ Beyond Banking Business พร้อมผลักดันและพัฒนาแอป ttb touch ให้มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ขณะที่ทีมงาน ttb spark academy ได้มีกิจกรรมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยและมีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานด้วยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จัดกิจกรรม ttb hackathon: Financial Well-being for Thais มีผู้ร่วมสมัครมากกว่า 100 ทีม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่เพื่อให้ Talent เหล่านี้สนใจร่วมงานกับธนาคารในอนาคต”
“ปี 2566 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายอันเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยศักยภาพของ ttb ที่มีความพร้อมทุกด้าน ผนวกกับกลยุทธ์หลัก 3 ด้านที่กล่าวมา ทำให้ปีนี้เรายังคงเดินหน้าไปสู่การเป็นธนาคารที่ Make REAL Change เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง” นายปิติ กล่าวสรุป