XSPRING ชูแนวคิด Resilient Growth in a Challenging Landscape เดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่องท่ามกลางตลาดผันผวน ด้วยธุรกิจสินเชื่อ รุกขยายฐานลูกค้า Private Credit ตอกย้ำบทบาทผู้นำตัวกลางทางการเงิน บริการครบวงจร ด้วย Ecosystem ผ่านแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อความสะดวกทุกการลงทุน ให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ตั้งเป้าปี 2568 รายได้รวม 1,100 ล้านบาท โต 20%
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ “XPG” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2567 ว่าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้รวม 911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% กำไรสุทธิ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% หลักๆมาจากรายได้ดอกเบี้ยธุรกิจสินเชื่อ หนุนพอร์ตสินเชื่อโตแตะ 8,000 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และรายได้จากเงินลงทุนและเงินปันผลเพิ่มขึ้น

โดยกลยุทธ์สำคัญในปี 2567 ได้แก่ การเปิดตัวบริการ Private Credit เชื่อมโยงนักลงทุน Wealth กับลูกค้าธุรกิจ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเควาลอน (KAVALON Token) โทเคนที่มีลักษณะคล้ายหนี้ (Debt-liked Investment Token) ครั้งแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้มีการลงทุนรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าตัวเงิน โดยระดมทุนได้ครบ 400 ล้านบาทให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ก่อนกำหนด
นอกจากนี้ยังเข้าลงทุนใน บริษัท กินดื่ม จำกัด (KINDUEM) ซึ่งประกอบธุรกิจ Food & Beverage ภายใต้แบรนด์ BEANS Coffee Roasters, AROI, DEAN & DELUCA, REES, THAI THAI EATERY และ UMAMI JAPANESE IZAKAYA เพื่อขยายแหล่งรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพ และกระจายความเสี่ยง สะท้อนศักยภาพการปรับตัวในภาวะตลาดการเงินที่มีความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับปี 2568 เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ ด้วยแนวคิด Resilient Growth in a Challenging Landscape ก้าวอย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาด ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน ตั้งเป้ารายได้รวม 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ด้วยธุรกิจสินเชื่อ รุกขยายฐานลูกค้า Private Credit และเชื่อมโยงธุรกิจในเครือทั้งด้าน Traditional และ Digital โดยใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัท ทั้งกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการสร้างความมั่งคั่งของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ธุรกิจสินเชื่อ จะยังเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง จากการที่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ราว 8,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจวาณิชธนกิจ พร้อมสนับสนุนลูกค้าธุรกิจระดมเงินทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อนักลงทุน (IPO) และการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) ซึ่งมีแผนในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลราว 3 – 5 โครงการในปีนี้”
ด้านบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ตั้งเป้าขยายธุรกิจกองทุนและธุรกิจนายหน้าจำหน่ายกองทุนรวม (LBDU) หนุนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแตะระดับ 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนออกกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ ประเดิมด้วยการเปิดขาย Term Funds (X-FIXED6M1R) เมื่อ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ ได้เริ่มให้บริการ “XSpring Application” แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงิน แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อและอำนวยความสะดวกในทุก ๆ การลงทุนของนักลงทุน ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับความยั่งยืน ในปี 2568 พร้อมเดินหน้าสานต่อ 2 โครงการเพื่อสังคม เพื่อเพิ่มขอบเขตของการเข้าถึงความรู้ทางการเงิน ได้แก่ โครงการ “Because Sharing is Caring – The Unsilenced Truths” ส่งต่อความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแก่ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน พัฒนาสื่อวีดิทัศน์พร้อมล่ามภาษามือ โดยจะขยายผลเข้าสู่โรงเรียนสอนคนหูหนวกในปีนี้ เช่นเดียวกับโครงการ “Play to Win” ที่เน้นให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อให้นักกีฬามวยและบุคลากรในวงการกีฬามีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยมีแผนขยายโครงการไปยังกีฬาประเภทอื่น เช่น กีฬากอล์ฟ เป็นต้น
“แม้ตลาดจะเต็มไปด้วยความท้าทายและมีความซับซ้อนมากขึ้น XSPRING ก็พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ตอกย้ำบทบาทผู้นำของตัวกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจที่ต้องการเงินและนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน ผ่านบริการทางการเงินที่ครบวงจร สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้า” นางสาววรางคณา กล่าวสรุป