นายธีรวุฒิ สุธนะเสรีพร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่าหลังจากวิกฤตโควิด -19 ในช่วงในปี 2020 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมาก ประกอบกับคนมีความต้องการการดูแลสุขภาพที่ดี ส่งผลให้ซิกน่า ได้วางแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการรุกตลาดประกันสุขภาพให้มากขึ้น คือการผลักดันให้คนในสังคมไทยกว่า 67 ล้านคนทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน ด้วยราคาเบี้ยประกันสุขภาพที่จับต้องได้
โดย ซิกน่าจะนำผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพแบบต่าง ๆ รวมถึงนวตกรรมการบริการใหม่ๆ ที่สามามรถตอบสนองความต้องการของซิกน่า เข้ามาสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพกาย ใจ หรือสถานะทางการเงิน โดยมีการนำกลยุทธ์การดำเนินงานจาก Cigna Global มาปรับใช้ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยมากที่สุด เพื่อสร้างโอกาสและลดอุปสรรคในการเข้าถึงประกันภัยให้แก่คนในสังคมได้อย่างแท้จริง
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2564 ซิกน่าได้ยึดองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ได้แก่
- Affordable: การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงได้ง่าย ในราคาที่เหมาะสมแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุก segment
- Predicable: การนำข้อมูลเข้ามาช่วยวิเคราะห์ถึงความต้องการที่แท้จริง เพื่อให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าในอนาคต
- Simple: การนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
จากการสำรวจตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซิกน่ามุ่งศึกษามาโดยตลอด พบว่า คนไทยส่วนใหญ่มีอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCD’s หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากที่สุดถึง 75% หรือคิดเป็น 37 คนต่อชั่วโมง ทั้วโลก ซึ่งสาเหตุหลักเกิดมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตอย่างไม่รอบคอบ ความเครียด และสภาพแวดล้อมที่ไม้เอื้ออำนวย โดยซิกน่าได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดังกล่าวของคนในสังคม เพื่อนำมาวิเคราะห์ และต่อยอดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ รวมถึงแนวทางการรับมือที่เหมาะสมที่สุด ก่อให้เกิดเป็นการพัฒนาระบบ Cigna Health Ecosystem ขึ้น ซึ่งเครื่องมือนี้จะกลายเป็น Total Health Solution Platform ที่ดีที่สุด และพร้อมที่จะดูแลปัญหาสุขภาพของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน ครอบคลุมครบทั้ง 5 สภาวะทางสุขภาพ ตั้งแต่ช่วงก่อนเจ็บป่วย ไปจนถึงขั้นตอนของแห่งการพักฟื้น
ด้าน นางสาวนภา ตรีรัตนาวงศ์, รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจประกันสุขภาพ และรองประธานอาวุโสหน่วยงานนวัตกรรม และ Disruption บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตของตลาดประกันสุขภาพในช่วงปีที่ผ่านมา ในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไทยทุกคน มีสุขภาพที่ดี ด้วยระบบประกันภัย มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และ ผลิตภัณฑ์-การบริการที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดย Cigna Health Ecosystem ที่จะช่วยให้ เราดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการใช้ชีวิต
ทั้งนี้ จากวิกฤติการโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ คนไทย มีการซื้อประกันโควิดมากถึง 77% นอกจากนี้ มีคนใช้บริการ Telemedicine หรือการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ เพิ่มขึ้นถึง 67% และคนมีความเครียดจากการทำงานแบบ WFH สูงถึง 75% และมีปัจจัยการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ อีกหลายประการ โดยเฉพาะสิ่งที่น่ากลัวคือ คนปัจจุบัน เป็นโรค NCD หรือ โรคหลอดเลื่อน เบาหวาน และโรคอื่นๆ ที่เป็นโรคเรื้อรัง เพิ่มขื้นถึง 75% ซึ่งโรคเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัวอย่างมาก เนื่องเป็นโรค ที่ต้องรักษายาวนานต่อเนื่อง หมอหายาก ค่ารักษาพยาบาลสูง เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ เรามองว่าเป็นจุดที่ซิกน่า จะเข้ามาดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเป็นการเบาเทาความกังวลให้กับประชาชน
ในปีนี้เรามีการนำเสนอแผนประกันสุขภาพส่วนบุคคล ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผนประกัน Cigna Signature Care ที่มีความคุ้มครองให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อประกันที่เหมาะสมกับวงเงินและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตนเอง ไปจนถึงแผน Cigna Global Health Plan ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการดูแลรักษา ทั้งในภูมิภาคเอเชีย ไปจนถึงครอบคลุมทั่วโลก ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาปิดช่องว่างแห่งความต้องการทางด้านประกันสุขภาพได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในปี 2021 ซิกน่าได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตโดยคาดว่าจะมีการเติบโต เป็นเลข 2 หลัก โดยปีที่ผ่านมา บริษัท มีเบี้ยประกันภัยแตะ 5,000 ล้านบาท มีจำนวนกรมธรรม์ กว่า 2 ล้านกรมธรรม์ สำหรับการดำเนินงานภายใต้แนวคิด Anywhere, Any time, On the go! เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงซิกน่า ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอดช่วงเวลาการถือกรมธรรม์ของซิกน่า โดยจะเน้นการพัฒนาการให้บริการเชิงดิจิทัลที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผ่านการนำข้อมูลเข้ามาเรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค โดยตั้งเป้าหมายสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ทั้ 2 แบบ ไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพแบบเป็นรายภูมิภาค เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับความต้องการ และความจำเป็นในความคุ้มครองของผู้บริโภค ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ซึ่งการเดินหน้าเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มอาชีพ โดยไม่มีช่องว่างอีกต่อไป
สำหรับลูกค้าที่สนใจแผนประกันสุขภาพส่วนบุคคล Signature Care ของซิกน่า ที่ให้ความคุ้มครองได้แบบครบจบในแผนเดียว พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ 2 ต่อสุดคุ้ม ต่อที่ 1 ทุก ๆ การชำระค่าเบี้ย 10,000 บาท รับ Central E-voucher Card มูลค่า 1,500 บาท ต่อกรมธรรม์ ต่อที่ 2 ลูกค้าสามารถแบ่งชำระค่าเบี้ยผ่านบัตรเครดิต 0% ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. – 15 เม.ย. 2564