“บาจา” ลุยทรานส์ฟอร์มแบรนด์ต่อเนื่อง ยอดขายเติบโตสูงสุดในตลาด 2 ปีซ้อน

0
253

บาจา ตอกย้ำจุดยืน “Shoes for All” เดินเกมรุกเพิ่มไลน์สินค้า เปิดตัว Red Collection – Born in Italy, Worn Locally ตามคอนเซ็ปต์ ‘Style with Comfort’ รองเท้าแฟชั่นสวยมีสไตล์ใส่สบายด้วยคุณภาพมาตรฐานยุโรปในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมเซอร์วิสใหม่ “You Shop We Ship” และรีลอนช์ Bata Club อัพฟีเจอร์ใหม่เพื่อสร้างรอยัลตี้กับสมาชิกบัตรมากกว่า 2 ล้านคน เสริมด้วย Pocket Franchise ให้คอมมิชชั่น 15% จากยอดขายที่แชร์สินค้า ตั้งเป้าปี 2027 ยอดขายทะลุ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ฉลอง 100 ปี Bata Thailand 

คุณวิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรองเท้าในปี 2023 ว่าเติบโตแบบเหวี่ยงตัว จากปลายปี 2022 ที่โตอย่างรวดเร็วหลังคลายล็อกดาวน์ Covid-19 ต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีแรก 2023 โดย Sneakers และกลุ่มรองเท้าเด็กเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยม  มาถึงช่วงครึ่งปีหลังผลกระทบจากเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้ตลาดเริ่มชะลอตัวประกอบกับ นักท่องเที่ยวจีนและ Middle East ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักไม่ได้กลับมาเที่ยวไทยตามที่คาด ส่งผลให้ยอดขายที่เติบโต 100  % ในช่วงต้นปี เมื่อนำมาเฉลี่ยกับไตรมาสสุดท้ายที่ชะลอตัวลงแล้ว ทำให้ยอดขายทั้งปีเติบโตได้ที่ 17%  ซึ่งยังคงเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ เติบโตเร็วกว่าตลาดเกือบ 2 เท่า  และโตมากที่สุดติดต่อกัน 2 ปีซ้อน

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการทำตลาดและขยายธุรกิจอย่างเข้มข้นตั้งแต่กลางปี 2022  และการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย การขยายช่องทางโซเชียลมีเดีย และกระตุ้นการขายด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์คนดังอย่าง “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเสริมทัพด้วย Friends of Bata ซี-พฤกษ์ พานิช, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, โบกี้ไลอ้อน และ เดอะทอยส์  รวมไปถึงการนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์แฟชั่นที่ทันสมัย  การปรับปรุงหน้าร้านเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมให้ลูกค้าชอปสนุกและเป็นกันเองมากขึ้น  การมี Automatic Tool ที่ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม  

สำหรับปี 2024  คาดว่าเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นกับรองเท้าทุกกลุ่ม คือ ต้องสวมใส่สบาย เห็นได้ชัดจากการเติบโตของ Sneakers ในปีที่ผ่านมา ปีนี้จึงคาดว่ากลุ่มรองเท้าอื่นอย่าง Dress Shoes เช่น รองเท้าบัลลาลิน่า และรองเท้าแมรี่เจน  จะกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น  โดยกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้า ยังคงคอนเซ็ปต์ “Style with Comfort” รองเท้าทุกคู่ทุกกลุ่ม ต้องใส่สบาย แต่มีการเพิ่มสไตล์และดูเทรนดี้ขึ้น  ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว Red Label สินค้าไลน์แฟชั่นที่ได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถขยายกลุ่มลูกค้า Younger ที่มี Style Conscious รักแฟชั่นและรู้จักเลือกในสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง  ในปีนี้จะรุกต่อเนื่องด้วยการ “Red Collection” ที่ออกแบบให้ใส่ง่ายขึ้น และราคาจับต้องได้มากขึ้น

“ปีนี้เราขยายไลน์กลุ่มนี้ให้ไปสู่กลุ่มที่กว้างยิ่งขึ้น ตามจุดยืน ‘Shoes for All’ ที่ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงรองเท้าสวย คุณภาพดี ใส่สบาย ด้วยการเปิดตัว “Red Collection – Born in Italy, Worn Locally” ต่อเนื่องจากไลน์ Red Label แต่ทำให้ใส่ง่ายขึ้น ราคาจับต้องได้มากขึ้น และมีจำหน่ายในช่องทางร้านค้ามากขึ้น พร้อมตอกย้ำคุณภาพและความทนทานด้วย Born in Italy ไม่ใช่ฝรั่งเศสหรือสหรัฐฯที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นเป็นหลัก”

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าใหม่ๆทุกเดือน  โดยเน้นกลุ่มรองเท้าที่เป็น Heritage ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะใส่สบายไลน์ Comfit ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหลักซึ่งทุกคู่มากับเทคโนโลยี Comfort  และไลน์ Comfit สำหรับกลุ่มคนทำงาน อย่าง Ballerina,  Moccasin, Loafer และ Mary Jane เพื่อให้กลุ่มคนทำงานมีรองเท้าใส่สบาย ทนทาน รวมถึงรองเท้ากลุ่ม Dress Working Shoes Uniform รองเท้าสำหรับหลากหลายอาชีพ และยังมีแผนเปิดตัวรองเท้าเด็ก แบรนด์บับเบิ้ลกัมเมอร์  รวมไปถึงการเดินหน้าโปรเจกต์ Surprisingly Bata เป้าเปลี่ยนโฉมทุกร้านให้เสร็จ เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ใหม่ที่ต้องการสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น

“ทั้งหมดนี้เพื่อให้บาจามีรองเท้าทุกแบบสำหรับทุกคนทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกการใช้งาน ภายใต้ข้อกำหนดว่าต้องสวยมีสไตล์ นุ่มใส่ง่าย สบายกระเป๋า”

คุณวิลาสินี กล่าวถึง Automation Tool ที่จะเพิ่มประสบการณ์ในการชอปให้ลูกค้าว่า  ได้เปิดตัว “แคมเปญ You Shop We Ship”
แพลตฟอร์ม Omni-Channel  เชื่อมต่อการชอปทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างครบวงจร เมื่อลูกค้าไปช้อปหน้าร้านแล้วไม่มีสินค้าตามต้องการ พนักงานจะแนะนำให้สั่งซื้อผ่านหน้าร้านและจัดส่งสินค้าไปให้ที่บ้าน   พร้อมปรับปรุง Bata Club อัพฟีเจอร์ใหม่เพิ่มสิทธิ์พิเศษสร้างรอยัลตี้กับสมาชิกกว่า 2 ล้านคน  เสริมด้วย “Bata Pocket Franchise Share & Chill”  เพียงสมาชิก Bata Club แชร์สินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเอง เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงก์สมาชิกจะได้รับคอมมิชชั่นในการแนะนำสินค้าจากยอดขาย 15%

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักในการทำการตลาดยังคงต่อเนื่องกับกลุ่มคุณแม่ Young Mom  ซึ่งเป็นคนตัดสินใจเรื่องการซื้อรองเท้าให้ทุกคนในบ้าน รวมไปถึงหนุ่มสาววัยทำงาน กลุ่ม Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มที่บาจาพัฒนารองเท้าเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์

โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโตที่ 12% และโตเป็น 2 เท่าของตลาดต่อเนื่องทุกปี เพื่อบรรลุเป้าหมาย 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในโอกาส 100 ปี บาจา (ประเทศไทย) พร้อมกับขึ้นมาเป็นที่ 1 อีกครั้ง ด้วยยอดขาย 3,500 ล้านบาท ในปี 2027

ปัจจุบัน บาจามีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าหลากหลาย มีร้านค้ากว่า 235 ร้าน ทั้งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Shopping Mall และ Hyper Mart  ร้านแฟรนไชส์ 6 ร้าน  รวมถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการบนแพลทฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ Lazada และ Shopee เว็บไซต์ https://www.bata.co.th, Line Official: @Batathailand