มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แถลงงานปี 2567 ใช้งบฯ กว่า 511 ล้านบาท ในการ “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ประชาชนกว่า 1.4 ล้านคน เผยภารกิจปี 2568 เปิดจุดบริการตรวจรักษาโรคทั่วไปโดยหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน, ตรวจรักษาโรคโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีนจากคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และเตรียมเปิดศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาวให้สาธุชนเข้าสักการะ
นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาวว่า โครงสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์ งานตกแต่งภายในที่เป็นลวดลายประเพณีจีน ประติมากรรมจีนต่างๆดำเนินการไปแล้วกว่า 90% งานปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ดำเนินการแล้วกว่า 76% คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้สาธุชนเข้ากราบไหว้สักการะภายในปี 2568
โดยศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาวได้ทำพิธีเบิกเนตร (ไคกวง) องค์ไต้ฮงกงหยกขาว องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (ตี่จั่งอ้วง) และเทพเจ้าประจำศาลเจ้าแล้ว โดยมีพระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส(เล่งเน่ยยี่) พร้อมพระสงฆ์จีนนิกาย 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ทั่วทั้งศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาว
พร้อมจัดพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยสมเด็จอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงโปรดให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ อัญเชิญไฟพระฤกษ์ประกอบพิธี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นผู้ต่อไฟพระฤกษ์ จุดเทียนชัย และอธิษฐานจิต นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้างานโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร (เย็นงี้) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส พร้อมคณะสงฆ์จีนนิกาย 15 รูปเจริญพุทธมนต์ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม จุดเทียนชัยพระมหามงคล พระราชาคณะ พระครูสัญญาบัตร และพระมหาเปรียญ จำนวน 73 รูป เจริญพุทธมนต์ พระภาวนาจารย์รวม 21 รูป เมตตานั่งปรกอธิษฐานจิต พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร เป็นผู้ดับเทียนชัย
“การก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งแยกบัญชีออกจากเงินบริจาคเพื่อการกุศลอื่นๆ และหวังว่าจะเป็นศูนย์รวมความศรัทธา เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ ในด้านกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม”
นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2567 ว่าใช้งบประมาณ กว่า 511 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ใช้งบฯ 501 ล้านบาท โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ด้าน ตามปณิธานของมูลนิธิฯ คือ “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
ด้านการ “ช่วยชีวิต” ในปี 2567 เกิดมหาอุทกภัยภาคเหนือและ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มูลนิธิฯ ได้บูรณาการทีมบรรเทาสาธารณภัย ทีมสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ช่วยชีวิต และฟื้นฟู เยียวยา อีกทั้งแผนกฝึกอบรมเดินหน้าเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อป้องกันและลดการสูญเสีย แก่หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมงบประมาณกว่า 166 ล้านบาท มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ 491,905 คน
ด้านการ “รักษาชีวิต” หน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน ให้บริการตรวจรักษาประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และถิ่นทุรกันดาร การสนับสนุนห้องผ่าตัด อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยโดยร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว รวมงบประมาณ 38.4 ล้านบาท
ด้านการ “สร้างชีวิต” ได้จัดโครงการต่างๆกว่า 10 โครงการ ครอบคลุมการศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน รวมงบประมาณ กว่า 278 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 956,645 คน
สำหรับปี 2568 มีโครงการใหม่ๆ ได้แก่ มอบทุนการศึกษา ด้านสาธารณสุขให้นักเรียนด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารเพื่อกลับไปปฏิบัติงานในพื้นที่ชุมชนบ้านเกิด บรรเทาปัญหาขาดแคนบุคลากร โดยกลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอบปลายที่ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในสาขาวิชาด้านสาธารณสุข โครงการสนับสนุนไม้เท้าขาวแก่ผู้พิการทางสายตา
แพทย์หญิงมนนภา ขุนณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ปี 2567 โรงพยาบาลทำโครงการช่วยเหลือสังคม 7 โครงการ งบประมาณกว่า 29 ล้านบาท โดยมี 3 โครงการให้การสนับสนุนมากที่สุดคือ โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยฟอกไต (กว่า12 ล้านบาท) รถ X-Ray Digital Mobile เพื่อออกบริการชุมชนในพื้นที่ (กว่า 7.4 ล้านบาท) และโครงการสงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วย (กว่า2 ล้านบาท)
นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และคณะกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า นอกจากจะให้บริการทางการแพทย์แผนจีนครบวงจรแล้ว ยังมีโครงการเพื่อสังคมหลากหลายมิติ อาทิ โครงการสงเคราะห์ผู้นำครอบครัวที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง โครงการเผยแพร่ความรู้การดูแลสุขภาพแก่ภาคประชาชน การออกหน่วยตรวจรักษาและให้คำปรึกษาด้านการแพทย์แผนจีน และร่วมแจกชาสมุนไพรจีน ผลิตภัณฑ์หย่างเซิงเสริมสร้างสุขภาพ ฯลฯ โดยปี พ.ศ. 2567 ได้ให้การดูแลผู้ป่วยรวม 325,720 ราย
รศ.ดร.อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้ขับเคลื่อนพันธกิจตอบโจทย์ “การสร้างชีวิต” ผ่าน 4 มิติเด่นเพื่อสังคม ได้แก่ 1.หลักสูตรใหม่ตอบโจทย์สังคม อาทิ หลักสูตรวิทยาการหุ่นยนต์สุขภาพ, หลักสูตรจัดการธุรกิจการบิน ซึ่งร่วมกับอุตสาหกรรมการบืนกุ่ยหลิน ส่งนักศึกษาไปเรียนที่ประเทศจีน และโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน 5 ประเทศ กว่า 1,500 คน 2. ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อสังคม บ่มเพาะจิตอาสา! กว่า 50 รายวิชา ช่วยเหลือชุมชน และทุนการศึกษา กว่า 30 ล้านบาท 3. วิจัยเพื่อพัฒนาสังคม สร้างงานวิจัยโดยใช้ “นวัตกรรม” พัฒนาชุมชนสมุทรปราการ “สร้างสรรค์เศรษฐกิจ รักษ์สิ่งแวดล้อม และดูแลสุขภาพ” และ 4. การบริการสังคม ตอกย้ำปณิธาน “การให้” กว่า 40 โครงการ
