นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยสามารถแจ้งความประสงค์กับบริษัทประกันชีวิต เพื่อให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับกรมสรรพากร บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าบริการด้วยหลากหลายช่องทางการในแจ้งความประสงค์ดังกล่าว อาทิ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทุกสาขาทั่วประเทศในวันและเวลาทำการ หรือ ทำการแจ้งความประสงค์ผ่านทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.muangthai.co.th หรือแอปพลิเคชัน MTL Click
ทั้งนี้ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ซื้อประกันสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไปและผู้เอาประกันภัยที่ซื้อประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบบำนาญ และประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส ตั้งแต่ 1 ม.ค.63 เป็นต้นไป สามารถแจ้งความประสงค์กับบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้กรมสรรพากร มิเช่นนั้นลูกค้าจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยได้ โดยหลังจากที่ลูกค้าได้ทำการแจ้งความประสงค์แล้ว บริษัทฯ จะนำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยของคุณให้กับกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติทุกปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอยกเลิกการจัดส่งหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยรูปแบบกระดาษ นับแต่ปีภาษี 2564 เป็นต้นไป ส่วนลูกค้าที่เคยแจ้งความประสงค์ต่อบริษัทฯ แล้ว ไม่ต้องแจ้งความประสงค์อีกในปีภาษีปัจจุบัน
นายสาระกล่าวว่า ภายใต้นโยบาย “MTL Everyday Life Partner” ด้วยช่องทางบริการที่ครบครัน ให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ทั้งแบบ Face to face หรือ Self-Service ผ่านทาง Digital หรือ Non-Digital อาทิ บริการ Video Call ศูนย์บริการลูกค้าในมือถือ ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ทุกสถานที่ ซื้อหรือสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเมืองไทยประกันชีวิตผ่านเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ แบบ Real Time รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน MTL Click ที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิตเอาไว้อย่างครอบคลุม เพื่อการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุก Journey ของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกค้า ทั้งในด้านความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ตลอดจนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าพึงได้รับ ด้วย
“จุดยืนในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของบริษัทฯ ไม่เพียงเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่จะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่นำมามอบให้แก่ลูกค้า ไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทนประกันชีวิต แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อรอบด้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงชีวิต” นายสาระ กล่าว
หมายเหตุ :
1. การใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
2. เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด