เออร์โกประกันภัย เปิดแนวรุกใต้คอนเซ็ปต์ “ให้ประกันเป็นเรื่องสำคัญที่เรียบง่าย” ตั้งเป้าขึ้นอันดับ 5 ของธุรกิจ

0
128

นับจาก เออร์โก กรุ๊ป (ERGO) กลุ่มธุรกิจประกันภัยขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของประเทศเยอรมัน ดำเนินธุรกิจในตลาดยุโรปและเอเชียกว่า 25 ประเทศ เป็นบริษัทในเครือมิวนิกรี (Munich Re) กลุ่มธุรกิจผู้รับประกันภัยต่อและรับประกันความเสี่ยงชั้นนำของโลก ได้ประกาศตัวเข้าสู่ตลาดประกันภัยของประเทศไทย ด้วยการเข้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งขณะนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับที่ 30 ของตลาดประกันภัย

 โดยช่วงที่ผ่านมา ERGO ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ผ่านการร่วมทุนกับบริษัทไทยศรีประกันภัย ของกลุ่มตระกูล “พานิชชีวะ” จนกระทั่งในปี 2566 ทาง ERGO ได้ปิดดีลควบรวมกิจการกับ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) และประมาณในเดือน มี.ค. 2566 ได้ใช้เงินสดกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในการ เข้าซื้อกิจการของ บมจ.นำสินประกันภัย นับเป็นหนึ่งในแผนเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดธุรกิจประกันภัยที่จะช่วยให้เออร์โกประกันภัยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เออร์โก กรุ๊ป ในสัดส่วน 75% และได้เปลี่ยนชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า “เออร์โกประกันภัย” พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์ “ERGO” เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา และก้าวขึ้นสู่การเป็นบริษัทประกันภัยที่มีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 8 ของตลาดประกันวินาศภัยประเทศไทยได้ในที่สุด

ดร. ทิลล์ โบห์เมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2566  บริษัทมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402.9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 10,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.82%

โดยมีสัดส่วนการรับประกันภัย แบ่งเป็นการประกันภัยรถยนต์ 66.99% และการประกันภัยที่ไม่ใช่รถ 33.01% ส่วนนี้แยกออกเป็น 1. ประกันภัยเบ็ดเตล็ด 19.28% 2. ประกันภัยทรัพย์สิน 9.80% 3. ประกันภัยวิศวกรรม 2.15% 4. ประกันภัยทางทะเลและการขนส่ง 1.76% และ 5. อื่น ๆ อีก 0.03%  นับประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

ทั้งนี้ ช่วงปีที่ผ่านมา เออร์โกประกันภัย ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้าในประเทศไทย ทั้งประกันภัยส่วนบุคคล ประกันภัยรายย่อย ประกันภัยกลุ่มองค์กร ไปจนถึงประกันภัยเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันภัยทรัพย์สิน และประกันภัยทางทะเล

โดยมีเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2567  คาดว่าจะแตะระดับ 12,000 ล้านบาท เติบโต 15.2%  โดยจะมาจากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก โดยเฉพาะในส่วนประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) โดยมุ่งเน้นเจาะลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ด้วยการขยายสาขา ให้กระจายทั่วถึงลูกค้า โดยบริษัทฯ ได้ขยายสาขาสำหรับจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยบนห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ไปแล้วกว่า 40 สาขา และสาขาในต่างจังหวัดทั่วประเทศอีกกว่า 60 สาขา และในปี 2567 มีแผนจะเปิดสาขาให้ได้มากกว่า 100 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ เบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ความพร้อมในการให้บริการทุกด้านอย่างครบครัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้จนครบ เพิ่มเป็นกว่า 80 สาขาภายในสิ้นปีนี้ โดยการเปิดรับพนักงานจากสินมั่นคงประกันภัยเข้ามาร่วมเสริมทัพด้านการขายและการให้บริการ จะช่วยปรับปรุงรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการได้อย่างครบวงจร ตอกย้ำแนวคิด “ให้ประกันภัย…เป็นเรื่องสำคัญที่เรียบง่าย” สำหรับคนไทยทุกคน

นอกจากนี้ ยังเตรียมการแผนพัฒนาการให้บริการในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านการรับแจ้งอุบัติเหตุที่พร้อมขยายการให้บริการด้วยการกระจายพนักงานเคลมให้ถึงที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด ด้วยทีม customer service ที่แข็งแกร่ง รวมถึงพนักงานทุกคนของ ERGO ที่ช่วยกันผลักดันให้การเติบโตครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้

พร้อมกันนื้ เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) เชื่อว่า ทุกความเสี่ยงภัยของชีวิต จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใส่ใจและทั่วถึง จึงตั้งเป้าสู่การเป็นบริษัทประกันภัยที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ และมีแผนที่จะพัฒนาการให้บริการในทุกด้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านการรับแจ้งอุบัติเหตุที่พร้อมขยายการให้บริการด้วยการกระจายพนักงานเคลมให้ถึงที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดอบรมพนักงานศูนย์รับแจ้งเหตุเพื่อพัฒนาทักษะในการสนทนา โดยเฉพาะกับลูกค้าคู่สนทนาที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุและกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ขณะเดียวกันการลงทุนฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความสามารถในด้านอื่นๆ ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เนื่องจากในปัจจุบัน ปัญหาหลักของธุรกิจประกันภัย คือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ให้มีความรู้ความสามารถอย่างรอบด้านมากขึ้น

ดร.ทิลล์ กล่าวอีกว่า สำหรับพอร์ตประกันรถยนต์ของบริษัทถือว่าสัดส่วนการรับประกัน ณ ปัจจุบัน ถือว่ามีความเหมาะสมมาก โดยงานรับประกันของบริษัทนำสินประกันภัยก่อนหน้านี้ มีพอร์ตใหญ่รถบรรทุก และประกัน พ.ร.บ. รวมทั้งมีจุดแข็งด้านการบริการเคลมสินไหม  อีกทั้ง ในส่วนของงานบริษัทไทยศรีประกันภัย ที่รับประกันพอร์ตใหญ่เป็นรถหรู และได้พอร์ตงานประกันรถยนต์อีโคคาร์จากบริษัทสินมั่นคงประกันภัย รวมทั้งได้พนักงานอีก 800 ราย เข้ามาเสริมกำลังในการขับเคลื่อนธุรกิจ จนทำให้บริษัทมีพนักงานทั้งหมด 1,700 ราย

นอกจากนี้ เออร์โกประกันภัย ยังให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการ (Governance) และเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของปี 2567 และปี 2568 นี้ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นแผนการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ และทั่วถึงทั้งบริษัทให้ครอบคลุมทุกส่วนงาน การพัฒนาบุคลากรให้เกิดการเติบโตจากภายในอย่างยั่งยืน โดยแต่งตั้ง Chief Governance Officer หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกำกับดูแลกิจการ เป็นผู้ขับเคลื่อนแผนงานทั้งหมดให้สำเร็จ และยังได้แต่งตั้ง Chief Finance Officer หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินคนใหม่ เข้ามาช่วยกำกับดูแล และบริหารด้านการเงิน เพื่อให้เออร์โกประกันภัยสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคงมากขึ้นอีกด้วย

ดร.ทิลล์  กล่าวต่อว่า เออร์โกประกันภัยเชื่อว่า แม้การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่การมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออย่างเข้าใจและเข้าถึงก็สำคัญไม่ต่างกัน จึงมุ่งเน้นพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับบุคลากรอย่างครอบคลุม เพื่อให้ทุกความช่วยเหลือได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และช่วยให้การประกันภัยเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน