“KTC มีแต้มต่อ”แคมเปญส่งท้ายปี 2564 ชูคอนเซ็ปต์ต่อความสุข ให้สมาชิกด้วยการเพิ่มมูลค่าคะแนน KTC FOREVER มากกว่าปกติ คุ้มค่าด้วยสิทธิพิเศษ 2 รูปแบบ ใช้ 999 คะแนน หรือใช้คะแนนเท่ายอดใช้จ่าย แลกรับส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ สะดวกสบายด้วยช่องทางการแลกคะแนนที่หลากหลาย กับพันธมิตรมากกว่า 170 พันธมิตรทั่วประเทศในหมวดใช้จ่ายสำหรับชีวิตประจำวัน
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” เปิดเผยถึง แคมเปญใหญ่ “KTC มีแต้มต่อ” ว่ามาตรการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง การออกแคมเปญเพิ่มมูลค่าของคะแนน KTC FOREVER จึงเป็นอีกช่องทางที่เคทีซีต้องการขอบคุณลูกค้าและสนับสนุนพันธมิตรที่ได้ต่อสู้ในยามวิกฤตที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณการตลาด 300 ล้านบาท ร่วมกับมากกว่า 170 พันธมิตรร้านค้าในหมวดใช้จ่ายสำหรับชีวิตประจำวัน โดยเน้นหมวดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายปี คือ ร้านอาหารและช้อปปิ้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้คะแนน KTC FOREVER จะมีค่ามากกว่าปกติด้วยสิทธิพิเศษ 2 รูปแบบหลัก คือ
1) ใช้ 999 คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลดมูลค่า 200 บาท / แลกรับส่วนลดสูงสุด 30% / แลกรับสินค้ามูลค่าสูงสุด 200 บาท หรือ แลกซื้อ e-Voucher Deals ในราคาลดสูงสุด 50%
2) ใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย แลกรับส่วนลดสูงสุด 25% หรือแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% โดยสมาชิกสามารถแลกคะแนนได้อย่างสะดวกสบาย ณ จุดขาย ที่หน้าร้านพันธมิตรกว่า 170 ร้านค้า หรือผ่านแอป KTC Mobile / เว็บไซต์ KTC / เว็บไซต์ KTC USHOP / KTC World Travel Service หรือ QR Point ของร้านค้าที่ร่วมรายการ สมาชิกสามารถใช้คะแนนต่อสุขได้ทุกที่ ไม่ว่าจะกิน ช้อป หรือเที่ยว
“ปัจจุบัน เคทีซีมีฐานสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีกว่า 2.5 ล้านบัตร มีคะแนน KTC FOREVER กว่า12,000 ล้านคะแนน โดยในช่วงปกติ แต่ละเดือนจะมีจำนวนคะแนน KTC FOREVER ที่สมาชิกนำมาแลกประมาณ 400 ล้านคะแนน สำหรับไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีการแลกคะแนนสูงกว่าไตรมาสอื่นๆและคาดว่าในไตรมาส 4 ของปีนี้ แคมเปญ “KTC มีแต้มต่อ” จะกระต้นให้สมาชิกแลกคะแนนมากขึ้น 20% หรือ 2,000 ล้านคะแนน”
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรนให้ร้านอาหารเปิดกิจการได้มากขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายในหมวดร้านอาหารในเดือนกันยายนกลับมาคึกคักอีกครั้ง สมาชิกเริ่มปรับเปลี่ยนจากการใช้บริการ Food Delivery เป็นการรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ชาบู เคทีซีจึงได้เชิญชวนพันธมิตรร้านอาหาร 80 ร้านค้า ครอบคลุมกว่า 3,000 แห่ง เข้าร่วมแคมเปญ ประกอบด้วย ร้านบุฟเฟ่ต์ อาทิ ซูกิชิ (Sukishi), โออิชิ (Oishi), ชาบูชิ (Shabushi), อะคิโยชิ (Akiyoshi), เรดซัน (Red Sun) ร้าน Stand-alone อาทิ วอเตอร์ ไลบรารี่ (Water Library), หงเปา (Hong Bao), จัมโบ ซีฟู้ด (Jumbo Seafood), แคมส์ โรสต์ (Kam’s Roast) ร้านกลุ่มที่ใช้คะแนนน้อย อาทิ คริสปีครีม (Krispy Kreme), กาเร็ต ป๊อปคอร์น (Garrett Popcorn), แมคโดนัลด์ (McDonald’s)
ในปี 2563 ยอดรวมคะแนนที่สมาชิกนำมาแลกในหมวดร้านอาหารมีจำนวนกว่า 1,100 ล้านคะแนน ดังนั้นในไตรมาส 4 ของปี 2564 แคมเปญ “KTC มีแต้มต่อ” ซึ่งเพิ่มมูลค่าคะแนน KTC FOREVER จะเป็นกุญแจหลักให้สมาชิกนำคะแนนมาแลกมากถึงกว่า 500 ล้านคะแนน
นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวถึงการใช้จ่ายในหมวดช้อปปิ้งว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้สมาชิกคุ้นชินกับการช้อปปิ้งออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้นทำให้สัดส่วนการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 40 % โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน e-Marketplace ต่างๆ มีการเติบโตมากขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 (มกราคม – สิงหาคม) สำหรับเดือนกันยายนห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้าฯ กลับมาเปิดกิจการเป็นปกติ รวมถึงไตรมาส 4 เป็นช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย จึงคาดว่ายอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในทุกๆ ช่องทางของพันธมิตรจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับแคมเปญ “KTC มีแต้มต่อ”ได้รวบรวมพันธมิตรในหมวดช้อปปิ้งมากกว่า 60 ร้านค้า 670 แห่งทั่วประเทศ เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก โดยในปี 2563 หมวดช้อปปิ้ง (ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์) มีจำนวนสมาชิกนำคะแนนสะสม KTC FOREVER มาแลกสินค้าหรือบริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในพอร์ต โดยยอดรวมคะแนนที่มีการนำมาแลกทั้งสิ้นกว่า 1,800 ล้านคะแนน และคาดว่าในหมวดช้อปปิ้งตลอดแคมเปญดังกล่าวจะมีจำนวนคะแนนที่สมาชิกนำมาแลกมากกว่า 700 ล้านคะแนน
