THRE กางแผน 2563-2565 พลิก “เทิร์นอะราวด์” สู่การเติบโต “Double Digit”

0
997

         นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด(มหาชน) หรือ THRE เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2563-2565 ว่า บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์รุกตลาดประกันภัยต่อส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางใหม่ๆควบคู่ไปกับการขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งธุรกิจประกันภัยต่อและบริการ ขยายความร่วมมือกับกลุ่มเครือข่าย Fairfax และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ AI และ Blockchain เข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานผลักดันผลประกอบการพลิกเทิร์นอะราวด์ สู่การเติบโต Double Digit ต่อเนื่อง

         โดยปี 2563 บริษัทเตรียมออกโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 30 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยต่อรวมที่ 4.2 พันล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อสุทธิที่ 3.8 พันล้านบาท ซึ่งรวมทั้งสัญญาประกันภัยต่อจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ารวมราว 100 ล้านบาท นอกจากนี้คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการประกันต่อจะลดลงถึง130 ล้านบาท จากการลดลงอย่างมากของงานที่มีอัตราความเสียหายสูง 

         ด้านธุรกิจบริการจะเริ่มให้บริการในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2 ประเทศ คือ กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งในส่วนของกัมพูชาบริษัทได้เซ็นต์ MOU ในการจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากรัฐบาลกัมพูชา ในส่วนของตลาดเวียดนามอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการสรุปแผนกับพาร์ทเนอร์ 

          นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมนำเทคโนโลยี เช่น AI, Blockchain, มาให้บริการใหม่ๆแก่ตลาดด้วย ซึ่งจากผลประกอบการด้านการรับประกันภัยต่อ และ ธุรกิจบริการ คาดว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) แตะระดับ 5-6% ในปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2562 ที่คาดว่า จะแตะระดับ 3-4% ขณะที่ในปี 2564 บริษัทฯตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยเติบโตกว่า12% เทียบจากปี 2563 ด้วยการรุกขยายธุรกิจบริการในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 1 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และขยายการบริการเพิ่มในประเทศกัมพูชา 

          ส่วนด้านการประกันภัยต่อ คาดจะมีสัญญาประกันภัยจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่าราว150 ล้านบาท โดยจะมีการรับรู้รายได้จากประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ควบคู่ไปกับการออกโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 30 โครงการ และมีค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยต่อลดลง อีกราว 40 ล้านบาท ซึ่งจะหนุน ROE เพิ่มขึ้นแตะระดับ 8% 

         ปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดัน ROE ขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องแตะระดับกว่า 10% ไปพร้อมๆกับการเติบโตของเบี้ยประกันภัยกว่า 15% ภายใต้กลยุทธ์การเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าสัญญาประกันภัยจากต่างประเทศมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หลังขยายตลาดเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ขณะเดียวกันยังเตรียมแผนขยายธุรกิจบริการในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 1 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย และ เพิ่มการบริการในประเทศ เวียดนาม

          “ จากการปรับโครงสร้างในการรุกประกันภัยต่อส่วนบุคคล และขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยรี จึงได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมารองรับการขยายตลาดด้วย ซึ่งก็คือบริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด โดยมีนางฐิตาพร ธารากิจ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ต่อจากนั้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสามารถให้บริการลูกค้าเป็นมาตรฐานและคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกระออกแบบประกันภัยเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะต้องใช้ข้อมูลอ้างอิง และในขณะเดียวกัน ก็ต้องให้บริการหลังการขายให้ลูกค้าด้วย ทั้งด้านภาษาการติดต่อประสานงานระหว่างลูกค้า โรงพยาบาล และบริษัทประกัน จึงได้เกิดบริษัทไทยรีอินโนเวชั่น จำกัด ตามมา โดยมีนางสาวพจมาน เฟื่องอารมย์ เป็นผู้จัดการทั่วไปหรือเรียกง่ายๆว่า บริษัทหลานของไทยรี นั่นเอง นายโอฬาร  วงศ์สุรพิเชษฐ์ กล่าว

           นายโอฬาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (IFS) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ที่ระดับ A- หรือระดับแข็งแกร่ง แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจประกันภัยที่แข็งแรง และมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ระดับความเสี่ยงทางด้านการลงทุนและสภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ดีทำให้บริษัทฯมีศักยภาพการแข่งขันที่ดีขึ้นในระยะยาว และเปิดโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่