ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี โชว์ความแข็งแกร่งหลังรวมกิจการครบ 1 ปี ด้วยกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2565 จำนวน 6,633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% โดยช่วยลูกค้าให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านโซลูชั่นทางการเงินที่ตอบโจทย์ ภายใต้เป้าหมายการเป็น The Bank of Financial Well-being พร้อมชวนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงิน 4 มิติสำคัญ “ฉลาดออม ฉลาดใช้ – รอบรู้เรื่องกู้ยืม – ลงทุนเพื่ออนาคต – มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ” เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจช่วง Post COVID-19 ที่เปราะบาง
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่ยังมีความเปราะบาง เห็นได้จากเงินเฟ้อของไทย ณ เดือนมิถุนายน 2565 พุ่งขึ้นสูงถึง 7.7% ขณะที่ทั้งปี 2564 เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ซึ่งหมายถึงรายได้ของทุกคนลดลงจากราคาสินค้าและบริการที่แพงขึ้น ขณะที่ปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนไทยยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล ปัจจุบันอยู่ในระดับสูง 91% ต่อจีดีพี ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้น้อยและเป็นคนส่วนใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
ทีเอ็มบีธนชาต จึงเดินหน้าตามพันธกิจที่ประกาศไว้ โดยช่วยลูกค้าให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านโซลูชั่นทางการเงินที่ตอบโจทย์ เช่น
- ช่วยให้ลูกค้ากว่า 2 ล้านราย ได้รับความคุ้มครองชีวิตและรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ฟรี! โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผ่านบัญชี ttb all free ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการจ่ายสินไหมเพื่อช่วยลูกค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท
- ช่วยให้ลูกค้ามีรถในฝันกว่า 90,000 รายผ่านสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE พร้อมส่งเสริมให้มีวินัยทางการเงินผ่านแคมเปญผ่อนดีมีคืน สำหรับลูกค้าที่ผ่อนชำระตรงกำหนดเวลากว่า 13,000 ราย และดูแลลูกค้าปัจจุบันอย่างต่อเนื่องด้วยการเสนอโปรแกรมช่วยเหลือให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้ากว่า 30,000 ราย
- ช่วยให้ลูกค้ามีบ้านในฝันกว่า 15,000 หมื่นหลัง พร้อมมอบประกันอัคคีภัยให้ฟรี! เพื่อความอุ่นใจ ตลอดอายุสัญญา ผ่านสินเชื่อ ttb home loan
- ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกค้าผ่านสินทรัพย์และโปรแกรมรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยผ่าน สินเชื่อ ttb cash your car กว่า 10,000ล้านบาท และสินเชื่อ ttb cash your home กว่า 44,000 พันล้านบาท
- ช่วยให้ลูกค้ากว่า 200,000 ราย เข้าถึงแหล่งเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในยามฉุกเฉินผ่านสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- ช่วยให้ลูกค้าลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านพอร์ตกองทุน ttb smart port โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมามียอดเงินลงทุนรวมเพิ่มกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท โดยมีลูกค้ากลุ่มรายได้ระดับกลางกว่า 8.000 ราย สามารถเข้าถึงและเริ่มต้นลงทุนได้
- ช่วยให้ลูกค้ามีความคุ้มครองด้วยประกันที่เหมาะสม ทั้งประกันสุขภาพ (Health) จำนวน 12,000 กรมธรรม์ ประกันเพื่อการออม (Saving) กว่า 17,000 กรมธรรม์ และประกันเพื่อคุ้มครองชีวิต (Protection) 183,000 กรมธรรม์ โดยมีการจ่ายสินไหมเพื่อช่วยลูกค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 1.2 พันล้านบาท
- ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจที่มีปัญหาสภาพคล่องเข้าถึงสินเชื่อได้เร็วและเหมาะสมกว่า 10,000 ราย ผ่านมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) และมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู (Special Loan) เป็นจำนวนเงินกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการ ช่วง 6 เดือนแรก ธนาคารมีกำไรสุทธิ 6,633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันกับปีที่แล้ว มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความเพียงพอของเงินกองทุนที่ 19.9% สูงเป็นลำดับต้นๆของอุตสาหกรรม ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จจากการรวมกิจการของทีเอ็มบีธนชาต ที่วางแผนอย่างรอบคอบผ่านกลยุทธ์การเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและให้บริการลูกค้า
ทั้งนี้ทีเอ็มบีธนชาตเชื่อในเรื่อง Make REAL Change สร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตคนไทยผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินภายใต้แนวคิด ชีวิตการเงินดีต้องมี 4 มิติสำคัญ ได้แก่
มิติที่ 1: ฉลาดออม ฉลาดใช้ ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และแบ่งออมก่อนใช้ เพื่อมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน
มิติที่ 2: รอบรู้เรื่องกู้ยืม ศึกษาทำความเข้าใจ เพื่อเลือกใช้สินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพการเงินของตนเอง โดยต้องสำรวจรายได้-รายจ่ายของตัวเองอย่างละเอียด
มิติที่ 3: ลงทุนเพื่ออนาคต ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทั่วโลก การลงทุนต้องเลือกลงทุนในเครื่องมือที่มีความผันผวนต่ำ กระจายความเสี่ยงได้ดี และผู้ที่มีความรู้การลงทุนไม่มาก ควรเลือกลงทุนในรูปแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลพอร์ตลงทุนให้
มิติที่ 4: มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ พอดีกับช่วงชีวิตและความต้องการ เพื่อไม่ต้องเอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ใช้ไปกับเรื่องฉุกเฉิน
“ทีเอ็มบีธนชาต ในฐานะ The Bank of Financial Well-being เดินหน้าพัฒนาโซลูชันการเงินภายใต้ 4 มิติพื้นฐานนี้มาโดยตลอด เพื่อจับมือเดินหน้าไปกับลูกค้าสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และในอนาคต อย่างไรก็ตามหากลูกค้าไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ชีวิตการเงินก็ยากที่จะดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความอ่อนไหว ดังนั้น คนไทยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงิน โดยนำแนวคิด 4 มิติพื้นฐานไปปรับใช้ เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีได้ด้วยตัวเอง ” นายปิติ กล่าวสรุป