กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LHFG เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2022 เติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของการระบาดโควิด-19 โดยมีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท สินเชื่อเติบโต 8.9% ย้ำกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ยังเน้น Digital Transformation พัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และสอดรับกับพฤติกรรมลูกค้า
นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผย ถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ว่าภาพรวมธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง มีสินทรัพย์สุทธิ 274,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% กำไรจากการดำเนินงาน 2,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% และมีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท
โดยตั้งเป้าเป็นสถาบันการเงินที่เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมพัฒนาองค์กร ด้วย Digital Transformation มุ่งมั่นเสริมสร้างการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) ด้วยการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ผ่านนโยบายการให้สินเชื่อตามกรอบแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (Responsible Lending) และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเงินสีเขียว
LH Bank จับมือพันธมิตรใหม่รุกรายย่อย
พร้อมปล่อยสินเชื่อ Digital Lending
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกว่า สินเชื่อเติบโต8.9% โดยโตในทุก Segment โดยสินเชื่อธุรกิจโต 7.2% สินเชื่อรายย่อยโต 18.3% ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงกลุ่มลูกค้าไต้หวัน ที่โตถึง49.8% และสินเชื่อ Trade Finance โต 68% 4 สอดคล้องกับธุรกิจส่งออกและนำเข้าของไทยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
จากแนวโน้มการเติบโตได้ดีของสินเชื่อรายย่อย ขณะที่สถานการณ์โลกยังคงมีความขัดแย้ง และเหตุการณ์ไม่แน่นอนต่างๆ ธนาคารจึงเตรียมการที่จะปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อ จากสัดส่วนเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม (SME) 10% และกลุ่มลูกค้าบริษัท (Big Corporate) 90% ให้เป็น 50-50 ภายใน 3 ปี โดยในครึ่งปีหลัง 2565 นี้จะจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อปล่อยสินเชื่อ Digital Lending
สำหรับผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5.9% จำนวน 1,843 ล้านบาท โดยหลักๆเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 15.7% และรายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน เพิ่มขึ้น 41.6% ทั้งนี้ธนาคารยังคงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ และรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) สูงถึง196% โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงจาก 2.44% ณ สิ้นปี 2564 เหลือ 2.40% ณ ไตรมาส 2 ปี 2565 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.4% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ขณะที่หลังหักสำรองฯ มีกำไรสุทธิ 431 ล้านบาท
ทางด้านกลยุทธ์ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric รวมทั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุก Segment โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล Pro-fit ที่ง่ายและสะดวกในการเปิดบัญชีผ่านMobile Banking LH Bank M Choice ทำให้ยอดเงินฝากสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง121.8% และมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
LH Fund ปรับกลยุทธ์ลงทุนสู้ศึกตลาดผันผวน
เน้นกองทุนส่วนบุคคลและลงทุนระยะยาว
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 ว่ามีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 16% เนื่องจากสภาวะตลาดการลงทุนมีปัจจัยลบ บริษัทจึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้ ผู้ถือหน่วยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
โดยผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการกองทุน บริษัทบริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) มูลค่าประมาณ 58,124 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 13,025 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีขนาดกองทุนอยู่ที่ 5,747 ล้านบาท โดยบริษัทเน้นเติบโตในกองทุน ส่วนบุคคลและการลงทุนระยะยาว ทำให้กองทุนส่วนบุคคลมีขนาดเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 ราว 3,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 38% รวมทั้งได้พัฒนาช่องทางบริการในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น และจัดตั้งกองทุนรวมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสอดคล้องกับภาวะตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่สามารถรักษาเงินต้น และมีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับตลาดการลงทุน เช่น กองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด (Private Equity Fund) และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด (Private Real Assets Fund)
ทั้งนี้บริษัทได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จการใช้นวัตกรรมสร้างความสำเร็จ “ Excellence in Innovation ประเภท House Awards” จาก Fund Selector Asia Awards Thailand 2021 และปี 2022 ปัจจุบัน LH Fund มีกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar จำนวน 51 กองทุน (ข้อมูล ณ 30 มิถุนายน 2565)
LH Securities ขยายฐานลูกค้าจากการใช้ Big Data
นำความเชี่ยวชาญของ CTBC Bank มาต่อยอด
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 ว่า มีรายได้รวม 316.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% โดยเป็นรายได้จากธุรกิจอื่นที่มิใช่ค่านายหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เช่น รายได้ดอกเบี้ยรับจากการเติบโตของลูกค้า กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน และรายได้อื่น รวม 211.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น11.4% ขณะที่รายได้ค่านายหน้า 105.1 ล้านบาท ลดลง 11.2% ตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้น และมีกำไรสุทธิ จำนวน 138.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนของปี 2564
โดยกลยุทธ์ของบริษัทยังคงเน้นขยายฐานลูกค้าจากการใช้ Big Data การเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนแบบออนไลน์ การขยายลูกค้าในกลุ่ม Mass ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตอย่างโดดเด่นในตลาดการเงินของไทย ตลอดจนนำความเชี่ยวชาญของ CTBC Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มมาช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งจะส่งเสริมให้บริษัทมีรายได้อื่นๆ นอกจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น