ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ปี 2568 ยกระดับความมุ่งมั่นในการสนับสนุนลูกค้าผ่านโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ครบวงจร พร้อมให้คำแนะนำเชิงลึกรับมือกับความท้าทาย และขยายโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 ท่ามกลางความท้าทายหลายด้าน กรุงศรียังคงให้การสนับสนุนกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น
พันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) ของกระทรวงการคลังครั้งแรกของประเทศไทย ประเทศแรกในเอเชีย และประเทศที่สามของโลก ต่อจากประเทศชิลีและอุรุกวัย
พันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) ครั้งแรกของประเทศไทย
หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงาน นิคมอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคม ธุรกิจโรงพยาบาล และอุตสาหกรรมเกษตร
นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นที่ปรึกษาและมีส่วนรวมใน 3 ธุรกรรมที่สำคัญ สะท้อนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อกรุงศรี ดังนี้
1) ที่ปรึกษาสำหรับการซื้อขายและควบรวมกิจการ (Exclusive M&A advisor) ในธุรกรรมการควบรวมกิจการพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประจำปี 2567 โดยเป็นการจำหน่ายหุ้น 90% ในกลุ่มธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดรวม 139.4 เมกะวัตต์ มูลค่ารวม 4,828 ล้านบาท
2) ที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว (Sole Financial Advisor) และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (Krungsri Securities) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Sole Lead Underwriter) ในการเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่หนึ่ง
3)สนับสนุนการขาย (Selling Agent) หน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารทั่วประเทศไทย และแอปพลิเคชัน krungsri app
สำหรับปี 2568 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านการลงทุนจากต่างประเทศและปัจจัยภายนอก เช่น ความผันผวนของตลาดโลก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยอดสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจช่วงไตรมาสแรก เติบโตตามเป้าหมายที่ 5-7% จากแนวคิด ‘Crafting Collaboration, Moving Beyond Solutions’ ที่ร่วมคิดและทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ ให้คำแนะนำและพัฒนากลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายธุรกิจสำหรับลูกค้าแต่ละราย
พร้อมทั้งออกแบบแนวทางการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก ได้แก่
1. Sustainable Finance and Capacity Building – เสริมสร้างขีดความสามารถด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในมิติของ ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อสร้างโอกาสทางการเงินใหม่ๆ รองรับการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจและสังคมในระยะยาว
2. Quality Growth – ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีคุณภาพ ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความต้องการของลูกค้าแต่ละราย พร้อมสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง
3. Investment Banking Solution – เสริมแกร่งโซลูชันการเงินเพื่อธุรกิจแบบครบวงจรผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (Krungsri Securities) เพื่อให้คำปรึกษาทางด้านการเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าแต่ละราย รวมถึงการให้บริการที่ปรึกษาสำหรับการซื้อขายและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions หรือ M&A) การเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (Equity Capital Markets) และการเป็นผู้สนับสนุนการขาย (Selling Agent) หน่วยลงทุน
4. Leverage MUFG & Global Network – ยกระดับการให้บริการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายของ MUFG และเครือข่ายระดับโลก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
นายประกอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ฯ มีหน่วยงานดูแลกลุ่มลูกค้าบรรษัทข้ามชาติ หรือ Multinational Corporation (MNC) มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมธุรกิจ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งร่วมกับบรรษัทข้ามชาติในภูมิภาค East Asian โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน แสดงถึงสัญญาณที่ดีในการขยายการลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
“ท่ามกลางความท้าทายและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น กรุงศรีและ MUFG พร้อมผนึกกำลังสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในประเทศไทย ในการปรับตัวและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง และผลักดันเศรษฐกิจไทยก้าวสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายประกอบ กล่าวสรุป