ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน การเดินทางไปและกลับในช่วงเทศกาลนอกจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องวางแผนการเดินทางให้ดีแล้ว การเตรียมความพร้อมของตัวรถด้วยการตรวจสภาพรถก่อนการเดินทาง ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ และต้องอย่าลืมตรวจสอบการมีประกันภัย พ.ร.บ.ของรถ ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งในหลายเทศกาลที่ผ่านมา มีผู้ประสบภัยจากรถจำนวนมากที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เพราะเจ้าของรถไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ.
ความคุ้มครองประกันภัย พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังนี้
กรณีบาดเจ็บ คุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลสูงสุดตามจริงไม่เกิน 80,000 บาทกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร คุ้มครอง 500,000 บาทต่อคนกรณีสูญเสียอวัยวะ คุ้มครองตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท แล้วแต่กรณีกรณีนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) คุ้มครองเป็นค่าชดเชยวันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน
(ยกเว้นผู้ขับขี่รถคันที่เอาประกันภัย จะได้รับการชดใช้เพียงค่าเสียหายเบื้องต้นจากบริษัทประกันที่รับประกันภัยรถของตนเท่านั้น สำหรับผู้ขับขี่รถที่เป็นฝ่ายถูกมีสิทธิไปเรียกร้องเอาจากฝ่ายที่ต้องรับผิด)
...
การทำประกันภัย พ.ร.บ. เป็นความจำเป็นที่เจ้าของรถหรือผู้ครองรถตามสัญญาเช่าซื้อ ต้องจัดทำ ประกันภัย พ.ร.บ. ทุกปี เพราะการทำประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะต้องได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที
แต่ ถ้าทำประกันภัย พ.ร.บ.แล้ว และต้องการจะยกเลิกกรมธรรม์ ยกเลิกได้แต่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินค่าเบี้ยคืนบางส่วน
ด้วยเหตุผลที่ว่า “เมื่อผู้เอาประกันภัยชำระค่าเบี้ยประกันภัยแล้วตามเงื่อนไขกรมธรรม์กำหนดให้กรมธรรม์ประกันภัยนั้นมีผลใช้บังคับทันที หรือเกิดความคุ้มครองทันที และเมื่อผู้เอาประกันภัยบอกยกเลิกกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืนตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ในอัตราการคืนเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ระบุไว้ดังนี้
จำนวนเดือนที่คุ้มครอง123456789101112เบี้ยประกันภัยคืนร้อยละ807060504030201510000
เช่น หากจำนวนเดือนที่มีการคุ้มครองไปแล้วตั้งแต่วันที่เริ่มทำ จนถึง 1 เดือน จะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนร้อยละ 80 หรือหากคุ้มครองไปแล้ว 2 เดือนได้รับเบี้ยประกันภัยคืนร้อยละ 70 เป็นต้น
โดยผู้เอาประกันภัยสามารถขอยกเลิกกรมธรรม์ ได้ที่สาขาของบริษัทกลางฯ ทั่วประเทศ...
อุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ปราศจากความระมัดระวัง รวมถึง สภาพรถ สภาพถนนและสภาพสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดอุบัติเหตุ จากข้อมูล www.Thairsc.com ในปี 2564 ที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมากกว่า 13,600 ราย และจากข้อมูลผู้ประสบภัยที่มาใช้สิทธิ์ที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่าการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มีผู้เสียชีวิตในถนนทางตรง สูงถึง 64% รองลงมาคือทางโค้ง 17% และทางแยก 11% แต่ ส่วนบริเวณ วงเวียน ตัวเลขเป็น 0 และอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นที่ถนนสายรอง ถนนในชุมชน โดยเฉพาะตามสี่แยกต่างๆ ที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร
จากข้อมูลพบว่า “วงเวียน” ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 40-50 % แต่ “วงเวียน” ไม่ได้เหมาะสมกับทุกทางแยก ขึ้นอยู่กับจำนวนและปริมาณการจราจร หากเป็นทางแยกที่มีการจราจรไม่หนาแน่นมากจะเหมาะสำหรับใช้วงเวียนมากกว่าสัญญาณไฟจราจร แต่ปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานที่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุด้วยวงเวียนหลายแห่ง โดย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยวงเวียน โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้จัดทำโครงการ วงเวียนช่วยชีวิต เพื่อเชิญชวนชุมชนปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงจุดอันตรายบริเวณทางแยกอันตรายในชุมชนของตน ด้วยการจัดทำวงเวียน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยทางถนนของชุมชน โดยมีบริษัทกลางฯ ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำ โดยในตอนนี้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้มีการดำเนินการจัดทำวงเวียนไปแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน จังหวัดเชียงราย สำนักงานเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง เทศบาลตำบลบวกค้าง จังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งภายหลังจากการจัดทำวงเวียนทั้ง 4 แห่ง พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่วงเวียน เป็น “0”
การทำวงเวียนจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางถนนของชุมชน วงเวียนจึงเป็นเครื่องมือในการจัดการ จุดเสี่ยง จุดอันตราย บริเวณทางแยกให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน อุบัติเหตุทางถนนในชุมชนลดลงได้ ถ้าทุกคนในชุมชนร่วมกันลดพื้นที่ จุดเสี่ยง จุดอันตรายเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน แต่ที่สำคัญผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนก็ต้องใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฎิบัติตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นด้วยเช่นกัน
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สมาคมประกันชีวิตไทยได้ออกหนังสือแจ้งเวียนบริษัทสมาชิกเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยอ้างอิงจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบ Home Isolation โดยให้สมาชิกฯ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
ภายหลังจากที่สมาคมประกันชีวิตไทยได้มีการสื่อสารแนวปฏิบัติดังกล่าวออกไป ปรากฏว่า ได้มีการตีความและมีข้อถกเถียงกันเป็นวงกว้าง ตลอดจนโรงพยาบาลเอกชนได้มีการปฏิเสธรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด หากไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าบริษัทประกันภัยจะปฏิเสธการจ่ายสินไหมทดแทน ส่งผลทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ทำประกันภัยได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมากดังนั้น เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และหาทางออกร่วมกัน
เลขาธิการ คปภ. ได้ประชุมคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. หลายครั้ง ตลอดจนประชุมร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จนได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากนั้นตนในฐานะนายทะเบียนจึงมอบหมายให้ นายชูฉัตร...
ในปัจจุบัน มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนข้ามถนน หรือคนเดินเท้าบ่อยครั้ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จากข้อมูล www.thairsc.com ในปี 2564 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนกว่า 13,000 ราย มีผู้บาดเจ็บ จำนวนกว่า 880,000 คน พบว่า มีคนเดินเท้า เสียชีวิต จำนวน 850 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.30 และบาดเจ็บ จำนวน 14,287 คน คิดเป็นร้อยละ 1.62
จากข้อมูล ยังพบว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ในช่วงวัยทำงานมากที่สุด จำนวน 379 ราย โดยช่วงเวลาเกิดเหตุ ที่ทำให้คนเดินเท้าเสียชีวิตมากที่สุดคือช่วงเวลา 19.00 น.
สาเหตุที่ทำให้คนเดินเท้าประสบอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ประมาท ขับรถเร็ว รวมถึงการออกแบบทางข้ามที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะทางกายภาพถนน ทัศนวิสัยไม่เอื้อต่อการใช้ถนนของคนเดินเท้า และการบังคับใช้กฎหมายจราจรไม่เพียงพอ
และที่สำคัญ การขับรถในเขตชุมชนและเขตที่มีคนเดินเท้าหนาแน่น ไม่ควรขับขี่รถด้วยความเร็ว ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อที่ผู้ขับขี่จะสามารถหยุดรถได้ทันหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก WHO ระบุว่าหากเกิดการชนที่ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนเดินเท้าจะมีโอกาสรอดชีวิตถึง 90% และสำหรับคนเดินเท้า ก็ควรเดินให้ชิดทางด้านขวามือ จะได้เห็นรถที่วิ่งสวนมาเพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญถ้ามีทางสำหรับคนเดินเท้า ก็อย่าเดินบนถนนเด็ดขาด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยทั้ง ผู้ขับขี่และคนเดินเท้าเอง
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ความคุ้มครองทุกคนที่ประสบภัยจากรถ รวมถึงผู้ประสบภัยที่เป็นคนเดินเท้า หากรถที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุนั้นมีการทำประกันภัยภาคบังคับหรือประกันภัย พ.ร.บ. โดยกฎหมายได้กำหนดให้เจ้าของรถทุกคันต้องจัดทำประกันภัย พ.ร.บ.เพื่อเป็นหลักประกัน หากเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้เสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาท ผู้บาดเจ็บจะได้ความคุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายที่แท้จริงสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน หากผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน ถูกรถไม่มีประกับภัย พ.ร.บ. ทำให้เสียชีวิต ทายาทของผู้ประสบภัยหรือผู้บาดเจ็บจะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขับขี่รถคันที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเอง
ดังนั้นการทำประกันภัย พ.ร.บ.จึงเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่เจ้าของรถทุกคนต้องปฎิบัติตามกฎหมาย เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นผู้ประสบภัยจากรถทุกคนก็จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
ผู้ประสบภัยจากรถสามารถติดต่อใช้สิทธิได้ที่บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถของตนเองหรือที่บริษัท...
ความต้องการของคนเป็นพ่อแม่ ย่อมอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่างเช่นการศึกษา การวางแผนให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศในสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ยิ่งเป็นโอกาสเปิดโลกกว้างทางการศึกษาให้กับลูกในการพบปะผู้คนหลากหลาย ช่วยสร้าง connection ใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำงาน และเป็นข้อได้เปรียบในการสมัครงาน แต่การเรียนต่อต่างประเทศใช้เงินไม่น้อย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรวางแผนการเงินอย่างไรเพื่อสามารถส่งลูกไปเรียนต่อยังต่างประเทศได้บ้าง
1.การกำหนดเป้าหมาย
สิ่งแรกเลยคือการกำหนดเป้าหมายว่าอยากให้ลูกได้เรียนต่างประเทศถึงระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท
2. ศึกษาค่าใช้จ่าย
เมื่อมีเป้าหมายแล้วว่าอยากให้ลูกได้เรียนต่างประเทศแบบไหน ขั้นต่อมาจำเป็นต้องหาข้อมูลให้ครอบคลุมในทุกด้าน เพื่อใช้ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ต้องการให้ลูกเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปกติระดับปริญญาตรีจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 3,000,000 บาท ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เรียน และยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับปริญญาโทจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 4,000,000 บาท ต่อปี
3. วางแผนการเงิน
เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ก็จะใช้เป็นเป้าหมายและระยะเวลาในการลงทุน ที่สำคัญต้องคำนึงถึงเงินเฟ้อด้านการศึกษาด้วย ยกตัวอย่างเช่น...
เพราะโควิด-19 ยังไม่รู้จะจบลงเมื่อใด ในขณะที่ภาระไม่มีคำว่าหยุดพัก ดังนั้น ‘การกู้สินเชื่อ’ ที่สะดวก อนุมัติไว และเชื่อถือได้ จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญของใครหลายคน แต่จะให้ดีการกู้สินเชื่อนี้ต้องไม่เพิ่มภาระให้ครอบครัว ด้วยการมี ‘ประกันคุ้มครองสินเชื่อ’ ที่จะทำหน้าที่จัดการดูแลหนี้ให้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันในวันข้างหน้า ‘เจนสวัสดี’ ขอนำเสนอแนวคิดการกู้สินเชื่อแบบมีประกัน
มาทำความรู้จักประเภทของสินเชื่อกัน
สินเชื่อแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ทั้งวัตถุประสงค์ในการกู้ยืม เงื่อนไขการให้กู้ยืม และเกณฑ์การผ่อนชำระ ดังนั้นก่อนจะเลือกสินเชื่อแบบไหน ควรต้องศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อน ซึ่งหากแบ่งตามการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไปที่รู้จักกันดี ได้แก่
สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผู้กู้ต้องนำหลักประกัน เช่น โฉนดบ้านและที่ดิน เล่มทะเบียนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ไปใช้ยื่นกู้ ซึ่งมีข้อดีคือ วงเงินที่ให้กู้จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ตามมูลค่าของหลักประกันนั้น ๆ โดยเงื่อนไขการพิจารณาก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล...
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จากปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) มีฐานะการเงินไม่มั่นคง โดยมีประมาณการหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน มีสภาพคล่องไม่เพียงพอสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และปรากฏว่าอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบริษัท ...
ปัจจุบันที่การระบาดของเชื้อ COVID-19 ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทวีความรุนแรงและอันตรายมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลตัวเองและเด็กในครรภ์อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะหากคุณแม่มีการติดเชื้อแล้วนอกจากจะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอีกด้วย
นายแพทย์ร่มไทร เลิศเพียรพิทยกุล แพทย์เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีการติดเชื้อ COVID-19 แล้วส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมักมีภาวะอ้วน อายุมาก มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ เป็นต้น และมีโอกาส 2-5% ที่จะส่งต่อเชื้อไปยังเด็กในครรภ์ได้ รวมถึงโอกาสเสี่ยงต่างๆ ทั้ง ครรภ์เป็นพิษ เลือดแข็งตัวผิดปกติ การคลอดก่อนกำหนดจนทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ากว่าปกติได้อีกด้วย
เมื่อมีการติดเชื้อ COVID-19 คุณแม่จะมีไข้ ไอแห้งๆ มีอาการอ่อนเพลีย หายใจติดขัด เจ็บคอ ท้องเสีย...
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยได้จำแนกหน่วยงานของรัฐออกเป็น 8 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 คือ หน่วยธุรการขององค์กรศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ และหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา ประเภทที่ 2 คือ ส่วนราชการระดับกรม ประเภทที่ 3 คือ รัฐวิสาหกิจ ประเภทที่ 4 คือ...