นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวต มุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาสตาร์ทอัพที่มีโอกาสเติบโต และมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหลังสถานการณ์โควิด-19 เช่น e-Logistics,Online Payment, Software as a service (SaaS), Food Tech, Health Tech, Insurce tech, Neo Bannking, Argi Tech, Ed Tech และ Hr Tech เป็นต้น
ทั้งนี้เดินหน้าพิจารณาโอกาสและความเป็นไปได้ในการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ยุโรป และในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตด้านนวัตกรรมสูงอย่างอิสราเอล โดยจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2563
ซึ่งวงเงินการลงทุนในสตาร์ทอัพที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารกรุงศรีฯครั้งแรกจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้ลงทุนใปแล้ว 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสตาร์ทอัพ 7 ราย คือ Grab Icon Silot Omise Choco ถือว่าได้รับผลบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ Baannia มีการปรับตัวจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ภาพรวมจึงมีการเติบโตที่ดี และอยู่ในสถานะหวังโควิดแล้วยังไปต่อได้ ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ระหว่างทำ Due Diligence ตามแผนการลงทุนสตาร์ทอัพเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งจะชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้
สำหรับวงเงินลงทุนในอีก 3 ปี (2564-2567) อยู่ระหว่างการขออนุมัติเพิ่มอีกจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในต้นปี 2564
นายแซม กล่าวถึงการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังว่า ได้วางกลยุทธ์การลงทุนไว้ภายใต้ 4 หลักการ เพื่อรองรับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ ( New Normal ) โดยกลยุทธแรก เป็นเรื่องการลงทุนเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Investment)ซึ่งในช่วง 3 ปี ได้ร่วมงานกับสตาร์ทอัพ 50 ราย 75 โครงการ และทำงานร่วมกับ 26 หน่วยงานธุรกิจในธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งทุกหน่วยงานในกรุงศรีเปิดใจในการทำงานกับสตาร์ทอัพ
กลยุทธที่สอง การลงทุนโดยพิจารณาถึงผลตอบแทนในระยะยาว (Financial Returns) เพื่อนำไปต่อยอดการลงทุน ตามเป้าหมายที่มุ่งไปสู่การเป็น Venture Capital ที่กรุงศรี ฟินโนเวต ไม่ต้องพึ่งพาเงินลงทุนจากธนาคาร สามารถมีกำไรเป็นเงินทุนหมุนเวียนไปต่อยอดธุรกิจเองได้ และเปิดให้นักลงทุนและสถาบันมาร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพใหม่ๆ คล้ายโมเดลของสหรัฐ และญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลตอบแทนการลงทุนในปี 2565 จากการเติบโตของสตาร์ทอัพ 2-3 ราย เช่น Grab Icon หรือ Phinnomena ที่มีศักยภาพในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสทำกำไรเฉลี่ย 2-3 เท่า
ล่าสุด กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ร่วมลงทุนจำนวน 10% หรือประมาณ 100 ล้านบาท ใน บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด (ICON Framework) ผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ให้สามารถเติบโต และรองรับกับทุกสถานการณ์ในอนาคต โดยไอคอน เฟรมเวิร์ค มีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Property Technology: Proptech) ของไทยมานานกว่า 12 ปี และได้ร่วมงานกับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับ Top 10 ของประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของกรุงศรีได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตามกรุงศรี ฟินโนเวตยังคงเดินหน้าสนับสนุนสตาร์ทอัพขนาดเล็กให้มีโอกาสในการเติบโตและขยายธุรกิจผ่านโครงการ Meet the Angle by Krugnsri Finnovate หลังจากโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีโดยมีสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการแล้วถึง 40 บริษัท
