ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคปภ. กล่าวในวันแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำปี 2563 ที่พัทยา เมื่อกลางเดือนตค.ที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อุตสาหกรรมประกันภัยก็ไม่เหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ เราได้รับผลกระทบจาก Digital disruption มีเรื่องสภาพแวดล้อม โลกร้อนที่เปลี่ยนแปลงไป มีเรื่องภัยพิบัติ โรคภัยต่างๆ ตอนนั้นเราคิดว่าธุรกิจประกันภัยยังพอมีเวลาในการปรับตัว
แต่มาถึงวันนี้ มี Covid-19 แม้ประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เพื่อนบ้านอย่าง เมียนมาร์ มีการแพร่ระบาดหนักมาก ทั้งนี้ในระยะแรกของการระบาด ยังมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้เร็ว และสักพักเดี๋ยวก็หายได้ แต่นับตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่มีการระบาด จนถึงวันนี้ยังไม่มีวัคซีน และการแพร่ระบาดก็รุนแรงมาก
Covid-19 ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ทั้งพฤติกรรมการดำรงชีวิต การประกอบธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม ตรงนี้ทำให้ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยน ภาคธุรกิจต้องปรับตัว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เศรษฐกิจถูกระทบรุนแรงมาก โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัย
ช่วงเหตุการณ์โควิดที่เกิดขึ้น คปภ.ต้องทำงานอย่างเร่งรีบ เช่น เร่งพิจารณาและอนุมัติ กรมธรรม์ประกันภัย Covid-19 ที่สุดสถิติการซื้อกรมธรรม์ประกันภัย Covid-19 สูงถึง 9 ล้านกรมธรรม์ เบี้ยประกันภัยสูง 4,600 ล้านบาท ถือว่าเป็นจำนวนที่มาก สำหรับการทำประกันภัยรายย่อย ซึ่ง จากกรณี Covid-19 เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า เรื่องของกรมธรรม์รายย่อยแม้จะมีเบี้ยประกันภัยเล็ก แต่หากกรมธรรม์ดังกล่าวตอบโจทย์ ก็สามารถทำให้บริษัทประกันภัยประสบความสำเร็จได้ ฉะนั้นเราจึงเห็นว่า ควรจะมีรูปแบบของผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ ออกมา เพราะปัจจุบันวิถีชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไป เขาต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว ต้องการประกันภัยที่เฉพาะเหตุการณ์ ฉะนั้นรูปแบบของการประกันภัยที่จะดำเนินการและเป็นแนวทางต่อไปคือ แบบประกันภัยที่สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละภูมิภาค แต่ละกลุ่มของประชาชน
(อ่านเต็มๆ ในนิตยสารไทยแลนด์อินชัวรันส์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563)