นายสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ มีอายุครบ 75 ปี โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับตรงไว้ที่ 4,402,000,000 บาท และมีเป้าหมาย 5 ปี เบี้ยประกันภัย จะไปอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท นับจากปีนี้ 2565 จนถึงปี 2569 โดยมีอัตราเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที 12-15% นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วน Non Motor ขยับเพิ่มเป็น 15%
ทั้งนี้ในการขยายการเติบโตผ่านสินค้าประกันภัยรถยนต์ ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทแล้ว ยังจะมุ่งขยายตลาดไปยังกลุ่ม ตลาดประกันภัยประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non Motor) ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย หรือรายบุคคลเป็นสำคัญ ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กร อาจจะเข้าไปร่วมรับประกันภัยกับบริษัทประกันภัยรายอื่นๆ พร้อมกันนี้ในหลักสูตรที่ได้มีการเปิดครอสอบรมให้กับตัวแทนนั้นจะเพิ่มเติมในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันภัยในกลุ่มNon Motor เข้าไป และพยายามจะเพิ่มเข้าไปในหลักสูตรการฝึกอบรม รวมทั้งพยายามที่ใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการรับประกันและการให้บริการ จึงสามารถช่วยให้การทำ Auto Underwriting ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับตัวแทนมากขึ้น ทั้งในด้านการขายและการออกกรมธรรม์ให้กับลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้ตัวแทนประกันภัยของเราทำหน้าที่ทั้งขายและเป็นผู้ให้บริการไปพร้อมกันเพื่อให้เกิดความสะดวกกับลูกค้า
โดยขณะนี้บริษัท มีตัวแทนประกันภัยอยู่ 12,000 ราย และสำนักงานตัวแทนที่สามารถออกกรมธรรม์ได้ทันทีอีกกว่า 700 แห่งทั่วทุกภูมิภาค จากสถิติ ตัวแทนจำนวน 20% สามารถสร้างผลงานให้กับบริษัทได้ประมาณ 80% เพราะฉะนั้นเรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มผลงานของตัวแทนในจำนวน 80% ที่เหลือให้มากขึ้น เพื่อจะเพิ่มสัดส่วนเบี้ยประกันภัยให้มากขึ้น โดยเน้นการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ตัวแทนอย่างเข้มข้นและให้ความสำคัญกับตัวแทนทุกระดับจะต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพ เพื่อพัฒนาการบริการของบริษัทฯ ในการดูลูกค้าตลอดเวลา มิตรแท้ประกันภัยยังเชื่อมั่นว่าการบริการผ่านตัวแทนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและอุ่นใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ให้สมกับ Slogan ของบริษัทฯ ที่ว่า “มิตรแท้ประกันภัย จริงใจเปิดเผย”เพื่อไปสู่เป้าหมายใน 5 ปี นี่คือส่วนหนึ่งในของกลยุทธ์
สำหรับ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันภัยนั้น โดยจะมุ่งมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายรูปแบบมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนสามารถเลือกแบบประกันภัยที่ตรงใจมากที่สุด อีกทั้งยังออกกรมธรรม์ด้วยเบี้ยประกันภัยที่ไม่แพงสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ขับรถดี เพื่อเป็นโอกาสให้ประชาชนได้ประหยัดเงินตั้งแต่ปีแรกที่ซื้อประกันภัยอีกด้วย อาทิ กรมธรรม์ประกันภัย ป1 ในตระกูล “มิตรแท้หนึ่งเดียว” Eco Car เบี้ยฯ 9,200 บาท รถกระบะ เบี้ยฯ 10,500 บาท รถ SUV MPV เบี้ยฯ 11,500 บาท และรถเบนซ์ เบี้ยฯ 26,900 บาท เท่านั้น ด้วยวลีเด็ดที่ว่า “ถ้าคุณเป็นคนขับรถดี แล้วจะจ่ายเบี้ยฯ ป1 แบบแพงๆ ไปทำไม” นอกจากนั้น ยังมีแบบประกันภัยอีกมากมายที่รวบรวมอยู่ Mini Catalog “มิตรแท้สะดวกซื้อ” ทั้ง Motor และ Non-Motor ที่พร้อมให้เลือกซื้อได้ทันทีแบบเบี้ยฯ สำเร็จรูป ซึ่งจะสะดวกสำหรับผู้สนใจและบริการได้รวดเร็วสำหรับตัวแทนอีกด้วย
ส่วนปี 2564 ที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรับตรงที่ 4,089,000,000 บาท จำแนกเป็นเบี้ยฯ จากประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จำนวน 3,672,000,000 บาท คิดเป็น 89.8% จากประกันภัย พ.ร.บ. จำนวน 281,000,000 บาท คิดเป็น 6.9% และจากประกันภัย Non-Motor จำนวน 136,000,000 บาท คิดเป็น 3.3%
ด้านอัตราการเติบโตของปี 2564 เบี้ยประกันภัยเติบโต 6.3% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งการเติบโตหลักมาจากการรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ รวม 6.5% ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดของปี 2564 รวมทุกประเภทภัยอยู่ในอันดับ 22 คิดเป็นสัดส่วน 1.54% โดยจำแนกเป็นประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่ในอันดับ 12 คิดเป็นสัดส่วน 2.81% และประกันภัย Non-Motor อยู่ในอันดับ 41 คิดเป็นสัดส่วน 0.12%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ จะยังคงยึดมั่นในแนวทางและนโยบายที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นการดำเนินธุรกิจที่มีความถูกต้องและแสดงให้เห็นถึงผลงานที่ชัดเจนแล้วว่าเรากำลังดำเนินงานมาได้อย่างถูกทาง
สำหรับข่าวลือ Blacklist บริษัทประกันภัยที่ยังคงมีการเผยแพร่วนเวียนอยู่ใน Social Media และกำลังกลับมาระบาดหนักอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี 2565 นั้น ก็ขอยืนยันว่าเป็นข่าวลือฯ เป็นข้อมูลเท็จและเป็นข้อมูลเก่าที่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดและบริษัทฯ ได้เคยดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่และส่งต่อมาแล้วนับสิบราย ขอให้มั่นใจในบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยเข้าสู่ปีที่ 75 แล้วด้วยความมั่นคง โดยมีทุนจดทะเบียนกว่า 1,618 ล้านบาท มีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (ตามกฎหมายต้องไม่น้อยกว่า 100%) บริษัทฯ อยู่ที่ 421% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 62% และอัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (ตามกฎหมายต้องมากกว่า 100%) บริษัทฯ อยู่ที่ 533% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 199% นอกจากนั้น ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญ MITTARE CALL OUT โดยเชิญชวนให้ผู้บริหาร ตัวแทนและพนักงานแสดงออกถึงการเรียกร้องให้ยุติการส่งแชร์ต่อข่าวลือฯ ดังกล่าวด้วยการเขียนข้อความเตือนให้หยุดส่งต่อข่าวลือฯ พร้อมส่งไปใน Social Media ส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้น จึงขอเตือนว่าอย่าได้หลงเชื่อข่าวลือฯ ดังกล่าวและหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0 2640 7777 หรือสืบค้นข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. www.oic.or.th หรือสายด่วน คปภ. 1186 และควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ หรือ ส่งต่อข่าวลือ Blacklist บริษัทประกันภัยนั้นโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย
(คลิปงานแถลงข่าว ฉบับเต็ม https://fb.watch/blGT45Xxda/)
