สมาพันธ์ SME ไทยดัน 10 ภารกิจฟื้นฟูSME ทั่วระเทศ

0
114

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยหลังรับตำแหน่งประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้ GDP SME ของประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศเป็นอย่างมากด้วยเหตุนี้สมาพันธ์ SME ไทยในฐานะที่เป็นองค์กรตัวแทนภาคเอกชนของ SME ทั่วประเทศจึงต้องร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ธุรกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจ SME ให้เติบโตภายใต้สโลแกน อยู่รอด อยู่เป็น อยู่เย็น และอยู่ยาว

“สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้นิยามคำว่า อยู่รอดหมายถึง การประคองธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ในยุควิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้โดยการช่วยเหลือให้เขาได้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือของรัฐและแนวทางต่างๆที่สมาพันจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้พ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ส่วนคำว่าอยู่เป็นคือ สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจหรือเพื่อยกระดับขีดความสามารถให้สูงขึ้น และอยู่เย็นคือการไม่ทำสิ่งใดเกินตัว พอประมาณ มีเหตุผลและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจโดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาล 9 มาใช้ดำเนินธุรกิจ

สุดท้ายคืออยู่ยาว หมายถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเอง โดยไม่ผิดต่อหลักจริยธรรมและคุณธรรม ที่สำคัญต้องมีกัลยาณมิตรที่ดีมาเป็นที่ปรึกษาให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ซึ่งสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย พร้อมที่จะเคียงข้างผู้ประกอบการทุกท่าน”

ทั้งนี้ การจะบรรลุถึงขั้นอยู่ยาว จำเป็นต้องขับเคลื่อน 10 ภารกิจให้ประสบความสำเร็จซึ่ง ภารกิจดังกล่าวได้แบ่งเป็น 5 ด้านหลักคือ ด้านความรู้ ด้านทุน ด้านการตลาด ด้านเครือข่าย และด้านกระบอกเสียง

สำหรับด้านแรกคือ ด้านความรู้ ซึ่งเราได้จะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่าย SME สร้างสรรค์ และส่งเสริม SME ให้สร้างนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ สามารถเชื่อมโยงทุนนวัตกรรม SME หรืองานวิจัยเชิงพาณิชย์สู่ประโยชน์ของSME ซึ่งนี่คือภารกิจแรกจาก 10 ภารกิจหลัก

ส่วนด้านที่สองคือ ด้านทุน ซึ่งมีหน้าที่ในการหาช่องทางแหล่งทุน SME ต้นทุนต่ำให้กับธุรกิจSME<br>ทำ Pre-Scoring ตรวจสอบสุขภาพธุรกิจ ประเมินขีดความสามารถทางธุรกิจ รวมไปถึงการให้ความรู้ใน<br>เรื่องการจัดทำมาตรฐานบัญชีเดียว

ด้านที่สามคือเรื่องการตลาด ซึ่งมีสามภารกิจสำคัญคือ ผลักดันแพลตฟอร์มออนไลน์ Star Market ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางสสว.เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าออกขายบนโลกออนไลน์

ภารกิจต่อมาคือของดี SME ไทย เป็นการค้นหาสินค้าและบริการ SME จากทั้ง  77จังหวัดเพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนสินค้าและบริการSME ภารกิจสุดท้ายของกลุ่มนี้คือ SME Thai Awards เป็นการคัดสรรสินค้าดี และบริการ มีคุณภาพของแต่ละจังหวัดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เชิดชู ยกย่องผู้ประกอบการ Start up และ SME Thai ที่มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับตลาดซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี

นอกจากสามภารกิจนี้แล้วทางสมาพันธ์ยังได้ดำเนินการ 6 e ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรม 6 ด้าน ดังนี้ e-Member e-Wallet e-Payment e- Commerce e- Catalog e-Event เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมสมาชิกของเราที่มีนับแสนคนจากทั่วประเทศให้สามารถค้าขายบนโลกออนไลน์ได้ทั้งระบบ

ด้านที่สี่คือ ด้านเครือข่ายซึ่งมีภารกิจสำคัญ 3 เรื่อง คือ Young SME Thai ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาลัยชุมชน โรงเรียน กศน. เพื่อสร้างงานและส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการใหม่ ให้กับน้องๆที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง ภารกิจเรื่องที่ 2 คือการขยายฐานสมาชิก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างเครือข่ายลงในแต่ละอำเภอเพื่อที่จะส่งผ่านข่าวสาร ความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการ SME ในแต่ละอำเภอซึ่งตอนนี้เราได้พัฒนาการรับสมัครสมาชิกโดยใช้ระบบ e-Member ซึ่งสะดวก รวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย ภารกิจเรื่องสุดท้ายในกลุ่มนี้คือ อาชีวะปลามังกร คือการพัฒนาน้อง อาชีวะซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศในยุคปัจจุบันให้มีความเป็นนวัตกรรม ตามแนวทางที่ว่า นวัตกรอาชีวะสร้างเศรษฐกิจชาติ

ด้านสุดท้ายคือกระบอกเสียง mSMEs ซึ่งภารกิจสำคัญ 2 เรื่องคือ ทนายอาสาSME ซึ่งจะมีหน้าที่ ให้ความรู้ทางกฎหมายให้กับ SME เสนอแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อ SME ภารกิจที่สองคือ สร้างเครือข่ายสื่อมวลชน mSMEs เพราะ พี่น้องสื่อมวลชนคือองค์กรส าคัญที่จะเป็นกระบอกเสียงนำพาข่าวสารของSME ไทย ไปสู่หน่วยงานภาครัฐเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการแก้ไขปัญหาบนความเป็นจริง“สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ยินดีที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย” นายแสงชัยกล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่