หน้าแรก Featured เอไอเอ จับมือ RISE เปิดตัว โครงการ ‘AIA x RISE Accelerator’ ค้นหาสตาร์ทอัพสร้างนวัตกรรมเสริมแกร่ง

เอไอเอ จับมือ RISE เปิดตัว โครงการ ‘AIA x RISE Accelerator’ ค้นหาสตาร์ทอัพสร้างนวัตกรรมเสริมแกร่ง

0
เอไอเอ จับมือ RISE เปิดตัว โครงการ ‘AIA x RISE Accelerator’ ค้นหาสตาร์ทอัพสร้างนวัตกรรมเสริมแกร่ง

เอไอเอ ประเทศไทย บริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งของประเทศ* ร่วมมือกับ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร เปิดตัวโครงการ “AIA x RISE Accelerator” เฟ้นหาสตาร์ทอัพทั่วโลกก่อนคัดเลือกสู่รอบสุดท้ายเพื่อร่วมออกแบบ-สร้างนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนองค์กรบนเส้นทางแห่งอนาคตดู พร้อมรับยุคใหม่ในการแลลูกค้าแบบ 360 องศา และยกระดับอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ด้วยการมอบประสบการณ์ ที่เหนือระดับในทุกมิติให้แก่ลูกค้า พนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives –เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เอไอเอ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่ดูแลคนไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 83 ปี เราจึงมุ่งมั่นในการสร้างพันธกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นโจทก์ ต้องยอมรับว่าเส้นทางจากปัจจุบันไปสู่อนาคตความต้องการของลูกค้ายุคนี้เปลี่ยนไปอย่างมากเอไอเอจึงพยายามหามุมมองใหม่ที่จะดูแลลูกค้าในอนาคต ว่าต้องการการดูแลแบบไหน เราจึงมีความจำเป็นต้องเข้าใจลูกค้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ทั้งในด้าน 1.ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Journey) 2.การเข้าถึงลูกค้า (Customer Reach) 3.การตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Customer Needs) และ 3. การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องการทำและเป็นที่มาของโครงการ “AIA x RISE Accelerator” จากการที่เอไอเอไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการบริการ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) เพื่อมอบการดูแลที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าตลอดทุกช่วงชีวิต

การที่เอไอเอ ร่วมมือกับ RISE จัดทำโครงการ “AIA x RISE Accelerator” ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่เรากำลังผลักดันองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรเพื่ออนาคตอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในองค์กร เพื่อต่อยอดและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเอไอเอ โดยมี RISE ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมองค์กร และเทคโนโลยีมาช่วยดึงเอาศักยภาพของสตาร์ทอัพทุกทีมที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายออกมา เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะเป็นโซลูชันใหม่ให้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ตามที่เอไอเอได้ตั้งเป้าหมายไว้ในการเป็นที่ 1 ด้านนวัตกรรมเพื่อส่งมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าและคนไทยทั่วประเทศ

ด้าน นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง RISE กล่าวว่า ในฐานะผู้ที่ทำหน้าที่ช่วยเร่งสปีดนวัตกรรมให้กับองค์กรชั้นนำมามากกว่า 400 แห่งทั่วเอเชีย พร้อมด้วยเครือข่ายสตาร์ทอัพกว่า 20,000 รายทั่วโลก หน้าที่ของเราคือ ช่วยเอไอเอ ในการค้นหาสตาร์ทอัพตามโจทก์โดยการรวบรวมความต้องการของส่วนงานต่างๆ ของเอไอเอซึ่งมีอยู่ 43 โจทก์ และคัดเลือกออกมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของ 15 ส่วนงานของเอไอเอจากการทำงานร่วมกัน และคัดเลือกเข้ามาแล้วถึง 200 บริษัทสตาร์ทอัพ และซึ่งจะมีการคัดเลือกครั้งสุดท้ายเพื่อนำไปสู่การปั้นบริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้ไปให้ถึงดวงดาวและสามารถมาร่วมงานกับ เอไอเอ ได้จริงๆ ผ่านโครงการ AIA x RISE Accelerator เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากความร่วมมือ ระหว่างเอไอเอและสตาร์ทอัพ ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันชีวิตให้กับคนไทย และพาให้องค์กร สำเร็จได้ตามเป้าประสงค์

AIA x RISE Accelerator เป็นโครงการแรกในภูมิภาคอาเซียนที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อตอบโจทย์ อุตสาหกรรมประกันชีวิตโดยเฉพาะ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการนำนวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับพนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดในการส่งมอบการบริการและประสบการณ์ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตแบบ 360 องศา เตรียมความพร้อมสู่การเป็น Digital Insurer ที่ตอบโจทย์ทั้งรูปแบบการทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่ และการให้บริการลูกค้าที่รวดเร็ว ทันต่อความต้องการในโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง ผ่านการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อดึงศักยภาพของสตาร์ทอัพเหล่านี้ มาช่วยพัฒนานวัตกรรมให้กับเอไอเอ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของเอไอเอ ที่ไม่เพียงแต่จะพัฒนาด้านนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมพร้อมกับการสนับสนุนสตาร์ทอัพ และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและมีโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’

ทั้งนี้ เอไอเอ และ RISE ได้ร่วมกันค้นหาและคัดเลือกสตาร์ทอัพที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมดโดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกสตาร์ทอัพจากการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความน่าสนใจ ทันสมัย และมีความเป็นไปได้ในการนำมาปรับใช้ในองค์กรเพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ครบทุกมิติ โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่จะมาทำงานร่วมกับเอไอเอ ได้แก่

GoalsMapper (สิงคโปร์) จะมาทำงานร่วมกับเอไอเอในการคิดค้นเครื่องมือเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับความสามารถของตัวแทนประกันชีวิตให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการลงทุนมืออาชีพ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันไปของลูกค้าแต่ละบุคคล

Autify (ญี่ปุ่น) เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปสู่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกับโซลูชันด้านระบบทดสอบซอฟต์แวร์อัตโนมัติ (no-code software testing automation) โดย Autify จะนำ AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยตรวจจับและแก้ไขโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการทดสอบ

Lightwork (ไทย) ร่วมกับเอไอเอคิดค้นเครื่องมือโดยใช้ Robotic Process Automation (RPA) หรือ แรงงาน หุ่นยนต์ดิจิทัลมาใช้ในการกระบวนการพิจารณารับประกันภัย ตั้งแต่การอนุมัติกรมธรรม์ ไปจนถึงขั้นตอนการเรียกร้องสินไหม และจ่ายค่าสินไหมทดแทน

Vulcan Coalition (ไทย) จะมาทำงานร่วมกับเอไอเอทีม Data scientist ในการจัดประเภทของข้อมูล (Data labelling) ให้เป็นระบบและประหยัดต้นทุนโดยมีผู้พิการที่ได้รับการฝึกฝนในการระบุประเภทของข้อมูลและทำการแยกแยะข้อมูล เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้รับการจัดประเภท (Data labelling) ไปพัฒนา Machine Learning

Vonder (ไทย) คิดค้นสื่อการเรียนรู้และการอบรมออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Microlearning ที่มีการนำเทคโนโลยีเกมมาประยุกต์ใช้ที่ช่วยสร้างความสนุกและสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง

Tetherfi (สิงคโปร์) Advance ethic monitoring for telesales คิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในการทำงานของฝ่ายขายทางโทรศัพท์ (Telesales) เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าจากที่ใดก็ได้  ทำให้ลูกค้าได้รับ ประสบการณ์ที่ดี รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำในทุกๆ ขั้นตอน

Smarten Spaces (สิงคโปร์) คิดค้นเทคโนโลยีทางด้าน Hybrid Workplace ที่เพิ่งได้รับรางวัล COVID Management of Year โดย Singapore Business Review 2020 ที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ IoT (Internet Of Things) เข้ามาจัดการพื้นที่ทำงานให้ปลอดภัยและยืดหยุ่น แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

“สำหรับสตาร์ทอัพที่เข้ารอบสุดท้ายจะมีโอกาสในการคว้าเงินรางวัลรวมมูลค่าสูงถึง 1 ล้านบาทจากเอไอเอ ประเทศไทย และมีโอกาสได้รับเงินลงทุนสูงถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐจาก SeaX Ventures กองทุนสัญชาติไทยที่ลงทุนในสตาร์ทอัพ ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงทั่วโลก โดยสตาร์ทอัพที่เข้ารอบสุดท้ายจะเข้ามาร่วมทำงานและพัฒนาโซลูชันกับเอไอเอ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน และจะมีการนำเสนอผลงานนวัตกรรมในงาน Demo Day ที่จะเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2565 ซึ่งจากการดำเนินโครงการในครั้งนี้จะช่วยให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์ด้วย รวมถึงในส่วนของประเทศไทยก็จะช่วยสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว คนไทยสามรถเข้าถึงสินค้าประกันมากขึ้นด้วย” นายกฤษณ์ กล่าว

ทั้งนี้สามารถติดตามและอัปเดตความเคลื่อนไหว รวมถึงศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ AIA x RISE Accelerator ได้ทาง aia.riseaccel.com

หมายเหตุ:

*อันดับ 1 ด้านสัดส่วนการตลาด (Market Share) และเบี้ยประกันภัยรวม (อ้างอิงจากสมาคมประกันชีวิตไทย ระหว่างเดือนมกราคม – สิงหาคม 2564)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Thailand Insurance News

Thailand Insurance News

พูดคุย และ ดูแลด้วยมิตรภาพ

I will be back soon

Thailand Insurance News
สวัสดีค่ะ 👋
ต้องการสอบถาม ข้อมูลด้านไหนดีคะ
Messenger