BBL ร่วมออกบูธงาน Sustainability Expo 2022 ชูแนวคิด “สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน”

0
207

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมออกบูธในงาน Sustainability Expo 2022 วันที่ 26 ก.ย. – 2 ต.ค. 65 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูแนวคิด “สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ฉายภาพโครงการ-กิจกรรมเด่น มุ่งหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน 5 มิติ ตอบโจทย์การสร้างสมดุลทั้งการสร้างธุรกิจ ดูแลลูกค้า และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมจับมือลูกค้าเอสเอ็มอีร่วมโชว์เคสความสำเร็จที่จับต้องได้ ย้ำจุดยืน “เพื่อนคู่คิด” เติบโตเคียงข้างลูกค้าอย่างยั่งยืน

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารนำเสนอผลงานและโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในงาน Sustainability Expo 2022 หรือ ‘SX 2022’ โดยบูธกิจกรรมนำเสนอแนวคิด Creating Value for a Sustainable Future หรือ “สรรค์สร้างคุณค่าสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ซึ่งประกอบด้วยความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนทั้ง 5 มิติ ดังนี้

  1. Be Responsible-การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ประเด็นสำคัญที่ผสมผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ามาอยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ผ่านการสนับสนุนเครื่องมือทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่โครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำโดยการเป็นผู้นำด้านรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้เพื่อการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้ง Green Bond, Social Bond และ Sustainable Bond หรือ Sustainability-linked Bond ซึ่งในปี 2564 ธนาคารเป็นผู้รับประกันการจำหน่ายตราสารกลุ่มดังกล่าวสูงถึงประมาณ 66% ของยอดออกตราสาร นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่สนับสนุนการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สินเชื่อบัวหลวงกรีน โครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และสินเชื่อเพื่อการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
  • Be Resilient- การรับมือกับภาวะวิกฤต เป็นมิติที่สอดคล้องกับบทบาทของธนาคารที่ต้องการเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ โดยช่วงที่ผ่านมา ธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจัดสรรมาตรการช่วยเหลือลูกค้า  ทั้งมาตรการเฉพาะของธนาคาร ซึ่งปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการความช่วยเหลือเป็นรายกรณี และดูแลทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยใช้สภาพคล่องของธนาคารเข้ามาดำเนินการ  รวมไปถึงการสนับสนุนภาครัฐ ภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนและหนี้ SME
  • Be Caring-การใส่ใจดูแลสังคม  เป็นการดูแลสังคมด้วยสำนึกในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ เช่น โครงการบัวหลวงร่วมชุมชนแก้ภัยแล้ง การอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมไทย การพัฒนาเยาวชน และการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา
  • Be Customer Centric-การให้บริการที่ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เป็นมิติความยั่งยืนที่ผสมผสานกับมุมมองด้านการตลาด  จากการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะพัฒนาบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โครงการสำคัญคือ บริการ Cross-border QR Payment ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ สามารถชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ด้วยการสแกน QR Code ณ ร้านค้าในต่างประเทศ ขณะที่ร้านค้าในประเทศไทยก็สามารถรับเงินผ่าน PromptPay QR ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดและแลกเปลี่ยนเงินตรา ปัจจุบันเริ่มให้บริการนี้ระหว่างประเทศไทยกับหลายประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และล่าสุดคือ กัมพูชา
  • Be Ethical-การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม  หัวใจของการบริหารธุรกิจด้านการเงินที่อิงอยู่บนความเชื่อถือไว้วางใจจากลูกค้าเป็นสำคัญ โครงการสำคัญคือ การจัดทำนโยบายสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงความเสี่ยงในด้าน ESG (Environment, Social, Governance) ในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่ครอบคลุมทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบุคคล

นายทวีลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า  นอกเหนือจากกิจกรรมออกบูธแล้ว ธนาคารได้เชิญชวนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ถือเป็นเคสตัวอย่างความสำเร็จ 2 ราย คือ บริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด หรือ“บริบูรณ์ฟาร์ม” เอสเอ็มอีที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม โดยผนึกกำลังกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองไทย วิจัยและพัฒนาสารสกัดอะโวคาโด สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรักษ์สุขภาพ รวมถึงสร้างเครือข่ายเกษตรกรให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน และ “แมคเลย” กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้านบ่อเหมืองน้อย จากจังหวัดเลย ผู้ผลิตและแปรรูปแมคคาเดเมียคุณภาพสูง พลิกวิกฤตจากโควิด-19 ให้กลายเป็นโอกาสเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิด ESG ที่ทำได้ทั้งรักษาสิ่งแวดล้อม ชุมชนมีรายได้ และปันส่วนกันอย่างเป็นธรรม

*