DPA เปิดโรดแมป 5 ปี ลุยสร้างความเชื่อมั่น เดินหน้าคุ้มครองเงินฝากครอบคลุม Virtual Bank

0
40

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ DPA  เปิดโรดแมป 5 ปี (2566-2570) ชู 4 ยุทธศาสตร์ สร้างความเชื่อมั่น  ผ่านสโลแกน “สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พร้อมคุ้มครอง เคียงข้างคุณ” เผยสถิติเงินฝาก ณ ตุลาคม 2565  ผู้ฝากรวม 89.66 ล้านราย โต 4.46% คุ้มครองเงินฝาก 16.12 ล้านล้านบาท โต 3.36%  ย้ำคุ้มครองเงินฝากผ่านธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) โดยคุ้มครองผู้ฝาก 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 ธนาคาร

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ DPA เปิดเผยถึงแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ว่าเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม และการให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล  จึงเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ฝากและประชาชนผ่าน 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

ยุทธศาสตร์ที่ 1 คุ้มครองผู้ฝากอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการจ่ายคืนและชำระบัญชี เมื่อเกิดวิกฤตสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต กระบวนการจ่ายคืนผู้ฝากต้องสะดวกรวดเร็ว ผ่านช่องทางที่ทันสมัย ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด  โดยสถาบันฯประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองทั้ง 32 แห่ง เพื่อทดสอบการรับส่งไฟล์ข้อมูลสถาบันการเงิน ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมระบบประมวลผลข้อมูลและระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝาก 

ยุทธศาสตร์ที่ 2  สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนและเสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงิน  ผ่านช่องทางการสื่อสารและวิธีที่แตกต่างให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย  โดยผนึกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนขยายการเข้าถึงและสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้ฝากและประชาชน  รวมไปถึงความร่วมมือด้านการสื่อสารกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน (FSN) ได้แก่ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย  

ยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างเสถียรภาพระบบสถาบันการเงินให้มีความมั่นคงและยั่งยืนผ่านการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน และพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเงินฝากเชิงลึก (Data Analytics) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการวิจัยและวิเคราะห์สถานการณ์เงินฝาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน

ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล ทั้งด้านบุคลากรและระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต โดยเฉพาะระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝากและระบบปฏิบัติการภายในต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับช่องทางการสื่อสารเพื่อให้สถาบันฯมีความพร้อมในการดำเนินงานตามพันธกิจอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องต่อผู้ฝากและประชาชน

นายทรงพล  กล่าวว่า ช่วงปี 2566 – 2570 สถาบันคุ้มครองเงินฝากยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการจ่ายคืนและชำระบัญชี และการสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนโดยเพิ่มการเสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงินให้ประชาชนมากขึ้น รวมไปถึงการปรับทิศทางการดำเนินงาน ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางการเงินและการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank ที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย   โดยผู้ฝากจะได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตามวงเงินคุ้มครองที่กฎหมายกำหนด จำนวน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน เช่นเดียวกัน

สำหรับรายงานข้อมูลสถิติเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวนเงินฝาก ที่ได้รับความคุ้มครอง 16.12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 5.25 แสนล้านบาท เติบโต 3.36% โดยส่วนใหญ่มาจากการพักเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ฝากรายใหญ่และกองทุนในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวน และภาคธุรกิจที่นำเงินมาพักไว้ในบัญชีเงินฝากเพื่อสร้างสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจโดยคาดว่าในปีนี้เงินฝากจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน

ขณะที่จำนวนผู้ฝากที่ได้รับการคุ้มครองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 89.66 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 3.83 ล้านราย คิดเป็นการเติบโต 4.46% โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ฝากบุคคลธรรมดาที่มีเงินฝากน้อยกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98.01 (87.88 ล้านราย)
ของจำนวนผู้ฝากทั้งหมด ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีจำนวนรวม 1.37 แสนล้านบาท มีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง เข้มแข็งและมั่นคง พร้อมคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝาก

ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ เว็บไซต์ www.dpa.or.th หรือช่องทางโซเชียลมีเดียได้ทาง Facebook, Youtube, Twitter, Line, LinkedIn เพียงกดค้นหา dpathailand หรือโทรสอบถามได้ที่ DPA Contact Center 1158