หน้าแรก Featured KKPเผยแผนปี 2566 โตแบบระมัดระวัง

KKPเผยแผนปี 2566 โตแบบระมัดระวัง

0
KKPเผยแผนปี 2566 โตแบบระมัดระวัง

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เผยปี 2566 เติบโตอย่างระวัง กังวลเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลกระทบทุกอุตสาหกรรม  เน้นขยายฐานลูกค้าสินเชื่อกลุ่มที่มีศักยภาพ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการออมและการลงทุนทั้ง  Edge (เอดจ์) และ Dime (ไดม์) ตั้งเป้าสินเชื่อรวมโต 13% 

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยถึงบทวิเคราห์ KKP Research ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 ยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ ดังนั้นแผนธุรกิจจึงเป็นการเติบโตแบบระมัดระวัง โดยขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพและต่อยอดการเชื่อมโยงธุรกิจของกลุ่มฯ ผ่านการขายขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้อง (cross-selling)  และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการออมและการลงทุนดิจิทัลทั้ง Dime (ไดม์) และ Edge (เอดจ์) ที่จะเปิดตัวในระยะต่อไปอย่างเต็มศักยภาพ

ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน Dime มีผู้ดาวน์โหลดแล้วกว่า 100,000 ราย และจะมีการจับมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อขยายฐานลูกค้าและพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปี 2565 ว่ามีผลประกอบการดีเป็นประวัติการณ์ โดยสินเชื่อขยาย 21.4% ทำให้รายได้จากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมเติบโต  แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง ในปี 2566 จึงยังคงเติบโตแบบมีกลยุทธ์ (Smart Growth) หรือการเลือกขยายสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อบ้าน การเดินหน้าเจาะตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ของธนาคารคือ ‘รถเรียกเงิน’ และการใช้ประโยชน์จากช่องทางดิจิทัลของธนาคารมากขึ้น ไม่ว่าแอป KKP Mobile หรือแอปของบริษัทในกลุ่มอย่าง Edge เพื่อเชื่อมโยงบริการของธนาคารเข้ากับบริการด้านการลงทุนที่เป็นความชำนาญของกลุ่มธุรกิจฯ

นายปรีชา เตชรุ่งชัยกุล ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงข้อมูลทางการเงินปี 2565 ว่า มีกำไรสุทธิ 7,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3%  มีกำไรเบ็ดเสร็จ 10,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.2%  โดยเป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน 758 ล้านบาท เป็นกำไรเบ็ดเสร็จของธุรกิจตลาดทุน 1,077 ล้านบาท  โดยการตั้งสำรองปี 2565 อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปี 2564 มีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 154.4

นอกจากนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 19,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 8,457 ล้านบาท ลดลง1.0% จากปี 2564 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio)คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี  2565 อยู่ที่ร้อยละ 16.26 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 จะเท่ากับร้อยละ 12.88”

เศรษฐกิจไทยท่องเที่ยวฟื้น-ส่งออกฟุบ

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตสดว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะชะลอตัวลงจากปีก่อน และหลายเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ด้วยปัญหาเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกระทบกับภาคการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีแรก

“จากมูลค่าเฉลี่ยของการส่งออกในระยะ 5 ปีหลังได้แตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว จึงยากที่จะเติบโตต่อไปในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะหดตัวอย่างน้อยในครึ่งปีแรก ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีเมื่อเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัว และการส่งออกทั้งปีจะติดลบ 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

ทั้งนี้ KKP Research ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จาก 2.8% เป็น 3.6% โดยมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว และการเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดของจีนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้จะไปแตะระดับ 25 ล้านคน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 19 ล้านคน

อย่างไรก็ตามการกระจุกตัวของภาคท่องเที่ยวไทยและห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ยาวเหมือนกับภาคการผลิตจะทำให้มีเพียงบางจังหวัดหรือบางภาคเศรษฐกิจเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการฟื้นตัว

Thailand Insurance News

Thailand Insurance News

พูดคุย และ ดูแลด้วยมิตรภาพ

I will be back soon

Thailand Insurance News
สวัสดีค่ะ 👋
ต้องการสอบถาม ข้อมูลด้านไหนดีคะ
Messenger