ต่อยอด Covid อย่างไร ให้ได้ลูกค้ารายใหญ่ จากเบี้ยฯหลักร้อย เป็นเบี้ยฯหลักหมื่นหลักแสน โดย สุนิสา เหลืองระฆัง MDRT 34 ปีซ้อน

0
494
ตุณสุนิสา เหลืองระฆัง MDRT 34 ปีซ้อน

ก่อนอื่น ต้องบอกว่า  Covid-19 ได้ทำให้ ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ  ถูกมองเห็นความสำคัญมากขี้นมาทันที  เนื่องจากได้รับอนิสงฆ์กันทั่วเกือบทุกประเทศ  มากน้อยต่างกันไป โดยขี้นอยู่กับตัวแทนแต่ละคน แต่ละที่ ว่าจะรู้จักใช้โอกาสอันดีงามนี้หรือไม่  ในการรีบติดต่อลูกค้า  เพื่อชี้ให้เห็นถึงการวางแผนการเงิน,การคุ้มครองสุขภาพให้ใหม่  เพื่อสอดคล้องกับความเสี่ยง  และความจำเป็นในปัจจุบัน

ขณะที่ผู้คนกำลังตื่นตระหนกต่อเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน  มีลูกค้าโทรศัพท์มาขอซื้อประกัน covid ตัวแทนบางคนมีสิทธิขาย หรือขายให้บริษัทนายหน้าที่ดิวกันไว้  หรือรีบหาสินค้าตอบสนองลูกค้าก่อนเลย  แต่ส่วนใหญ่ตัวแทนจะพลาดโอกาสนี้  เพราะติว่ากำไรน้อย  ไม่คุ้มค่าเสียเวลา  หารู้ไม่ว่า นั่นแหละคือ ไฟเขียวที่คุณจะได้ลูกค้าไม่รู้จบเลยทีเดียว  เพราะอะไร  ก็เพราะว่านั่นคือโอกาสที่เราจะได้คุยกับลูกค้า  เป็นโอกาสที่จะเสนอขายสินค้าอื่น ( เพราะปกติแม้แต่การนัดเพื่อจะเยี่ยมเยียนก็ยังยากเลยจริงมะคะ  อย่าว่าแต่จะนัดเพื่อเสนอขาย  )   เช่นตามห้างสรรพสินค้า มักจะมีโปรโมชั่น  สินค้าต่างๆแต่ละเดือน  ไม่เหมือนกัน 

ถามจริงๆ ลูกค้าเข้าไป ส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อแต่สินค้าที่โปรโมชั่นเท่านั้นใช่มะคะ  ผ่านแผนกนั้น แผนกนี้ก็อดที่จะแวะดู   หรืออดที่จะซื้อติดไม้ติดมือมาด้วยไม่ได้  เช่นกัน บางทีขายคุ้มครอง covid เบี้ยหลักร้อย สรุปเก็บเบี้ยมา  หลักพัน หลักหมื่น หลักแสน หลักล้านบาท ก็เป็นได้ แค่ขายความคิดง่ายๆให้ลูกค้าคิด “ คุณลูกค้า เป็นห่วงแต่ค่ารักษาพยาบาล  โรคโควิด หรือคะ แล้วโรคนี้  รักษาหายทุกรายไม๊คะ เรามาวางแผนขั้นตอนต่อด้วยเลยดีไม๊คะ ( ชี้ให้เขาเห็นว่ามีโอกาส สูญเสียชีวิตได้ ) เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า  จะเกิดหรือไม่เกิดจริงไม๊คะ  และถ้าเกิดก็ไม่สามารถบังคับได้ว่าจะจบลงขั้นตอนใหน ถูกไม๊คะ  และเมื่อเราซื้อประกันโรคโควิดแล้ว  ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโรคอื่นๆไม่ได้จริงไม๊คะ  ถ้าจะดักนก  หรือลากอวน  ใช้ตระข่ายรูเดียวได้มะคะ “  

ขณะที่ลูกค้ากำลังเหวออยู่  ก็เสนอขายแบบประกันชีวิต  และประกันสุขภาพ หรือออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต ที่เหมาะสมกับ สถาณภาพของตัวลูกค้าเอง เพื่อได้รับการคุ้มครอง  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้สร้างความมั่นคงจริงๆให้ผู้เอาประกัน  ซึ่งวีธีนี้อมตะ  ใช้ได้ตลอดกาล  ถึงแม้จะหมดยุค Covid-19 ไปนานแล้วก็ตาม เชื่อว่าเหตุการอันน่ากลัวนี้จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั้งโลกไปอีกนานแสนนานไม่รู้ลืม  เพราะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ติดเชื้อโรคกัน  หลายล้านคน  เสียชีวิตกัน วันละเป็นพัน  เป็นหมื่นคน และวันละหลายหมื่นก็มี  รวมเสียชีวิตหลายแสนคน เราก็ยกตัวอย่างเหตุการณนี้ขึ้นมาคุยเล่าให้คนรุ่นหลังฟังไม่รู้จบ และที่สำคัญ ! ทุกครั้งที่ส่งกรมธรรมอย่าลืม  ทบทวนเงื่อนไขของกรมธรรมให้ผู้เอาประกันเข้าใจตรงกับความคุ้มครอง  เชื่อว่าถ้าลูกค้าเข้าใจยิ่งขึ้น และรู้ว่ามีประโยช  ลูกค้าจะคิดถึงคนที่เขารักและนับถือ  อยากให้มีประกันเหมือนตัวเอง อย่างแน่นอน  จะได้การแนะนำให้ต่อลูกค้าไม่รู้จบเลยทีเดียว  ถ้ายังไม่ได้ผลก็ต่อก้อก 2 เลยค่ะ  ง่ายๆถามลูกค้าว่า ซื้อเพราะอะไร  ก็เอาเหตูผลนั้นๆ ขาย คนในครอบครัว  หรือให้แนะนำเพื่อนฝูงญาติโยม  ต่อๆออกไปแบบนี้  ไม่จบไม่สิ้นเหมือนกัน

หรืออีกหลายๆเหตุผลที่ Covid-19  ทำให้ได้ลูกค้าอย่างไม่รู้จบ ขอยกอีกตัวอย่าง  เช่นลูกค้าโทรศัพท์มาซื้อ  การคุ้มครองCovid ก็ขายไปเลยค่ะ หรือติดต่อลูกค้า  เพื่อเสนอขาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้ามีความกังวล  จะได้เบี้ยสัก  500/1000 บาทก็ดี ขายง่าย  อย่าคำนึงถึงผลตอบแทนการขายว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้ม  แต่ที่คุ้มคือเราได้ โปรเจกลูกค้า  ได้ข้อมูลลูกค้าใหม่  ได้รู้ว่าลูกค้ารักใคร  เป็นห่วงใคร จากการที่ลูกค้าให้ใส่ชื่อผู้รับประโยชน์  จากการที่ได้คุยขอข้อมูล  แล้วค่อยตามไปขายสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้าอีกก็ได้  เพียงแต่เราใส่ใจติดตามดูแลลูกค้าให้ดี ขายคุณภาพ ของสินค้า ไม่ขายเลหลังลดแลกแจกแถม ไม่ทิ้งลูกค้า  ลูกค้าก็จะไม่ทิ้งเราค่ะ ได้เป็นลูกค้าขาประจำผูกขาดกันไปตลอด

COVID – 19 ยังทำให้การดำรงค์ชีวิตการทำงาน  และธุระกิจการค้าต่างๆของคนเกือบทั่วโลกแตกต่างจากที่เคยผ่านมา จนกลายเป็น  New Nomal  จะยกตัวอย่างการขายประกันของวิทยากร สโมสร CMF ( CHINA MILLIONS FORUM )  ซี่งเป็นสโมสรประกันชีวิตและวางแผนการเงินของจีน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้จัดวิชาการ  on line ในช่วง  COVID-19 นี้ โดยนักขายแนวหน้าของประเทศจีน ให้สมาชิกทั่วโลกได้เรียนรู้กัน เมื่อวันที่ 2/5/20 ที่ผ่านมา วิชาการเริ่มตั้งแต่ 10 am-10 pm  เป็นเวลา 12 ชั่วโมงต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือ  ในการแปลเป็นภาษาไทย จากนักขายประกันและวางแผนการเงินมืออาชีพชองสมาชิกในประเทศไทย 2 ท่าน ท่านแรก คือ คุณประสิทธิ์ งามบุษบงโสภา สรุปและยกตัวอย่างของวิทยากรบางคนมาคร่าวๆตามนี้คือ      

เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคโลกของการออนไลน์เกือบจะเต็มรูปแบบ ในอดีตการซื้อขายทุกอย่างต้องผ่านคนกลางตัวแทน หรือนายหน้าเป็นคนชักชวนหรือแนะนำ แต่ในปัจจุบันออนไลน์ทำให้ตัดคนกลางไปในหลายๆธุรกิจ

ระบบออนไลน์ได้กลายร่างเป็นคนกลางแทน เช่น Grab DiDi ซึ่งทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจประกันก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวแทนหลายคนเริ่มมุ่งหน้าสู่ระบบการขายแบบออนไลน์100 %แต่ในปัจจุบันผลตอบแทนของระบบออนไลน์นั้นยังน้อยกว่าระบบตัวแทนมาก ในประเทศจีนมีการขายประกันผ่านระบบออนไลน์ประมาณ 7 % ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ระบบตัวแทนที่มีการบริการจะคงอยู่อย่างแน่นอน เพราะว่าประกันชีวิต ต้องถูกส่งมอบโดยตัวแทนเพราะว่า

โดยธรรมชาติของสินค้าประกันชีวิตไม่เหมือนสินค้าประเภทอื่น หรืออาจจะเรียกว่าเป็นสินค้าที่ไม่มีตัวตนลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องรีบใช้จึงจำเป็นที่จะต้องให้ตัวแทนเข้าไปแนะนำ สร้างความต้องการ วางแผน และจัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าคนที่สุขภาพแข็งแรง ส่วนใหญ่จะยังไม่รีบซื้อประกันสุขภาพ คนอายุน้อยส่วนใหญ่ จะยังไม่รีบเร่งในการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ จึงต้องมีตัวแทนเป็นคนที่จะไปอธิบายประโยชน์ของการวางแผนค่ารักษาพยาบาล และวางแผนการเกษียณ

สินค้าประกันชีวิตที่ดี จะเป็นการซื้อแบบระยะยาว ให้ความคุ้มครองที่สูง ซึ่งในระบบออนไลน์จะขายสินค้าประเภทนี้ได้ยากมาก

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์จะเป็นที่รายได้น้อย ถึงรายได้กลางๆ และซื้อสินค้าแบบจำเป็นเดี่ยว ยิ่งคนรายได้สูงมากเท่าไหร่เขายิ่งต้องการซื้อผ่านตัวแทนมืออาชีพเพราะมีการให้คำปรึกษาและบริการที่ดี

แต่เราไม่ควรปฏิเสธการใช้ออนไลน์ อยากให้ใช้ออนไลน์เป็นเครื่องมือเพิ่มความสะดวกในการทำงาน แต่อย่าใช้ออนไลน์แทนในทุกขั้นตอนการขาย เพราะออนไลน์มาช่วยให้เราทำงานสะดวกขึ้นก็จริง แต่ไม่สามารถทดแทนทุกอย่างหรือทุกขั้นตอนการขาย

“ เมื่อต้นปี2020 ตั้งแต่ประเทศจีนประสบปัญหา วิกฤติโรคโควิด 19 ตัวแทนหลายคนยอดขายตกลงมาก แต่ก็มีตัวแทนหลายคนที่ยอดขายเพิ่มขึ้นมากมาย เพราะพวกเขา รู้จักใช้วิกฤต  ให้เป็นโอกาส มีตัวอย่างวิทยากรMISS YAN  DONG  XIANG สามารถขายเบี้ยประกันในช่วงนี้ได้มากกว่า 6 ล้านหยวน ( ประมาณ30 ล้านบาท ) ส่วนใหญ่จะขายประกันสุขภาพ และมีเงินออมบางส่วน โดยวิทยากรมีกลยุทธ์ ดังนี้

  1. การตั้งกลุ่มวีแชทสำหรับลูกค้าระดับบน โดยหาจุดเด่นของลูกค้าแต่ละคนแล้วมาแชร์ความรู้กันในกลุ่ม เช่นกฎหมายธุรกิจ สุขภาพ การวางแผนการเงิน รวมถึงให้โอกาสลูกค้าในการใช้กลุ่มในการโฆษณาสินค้าของบริษัทได้
  2. ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเช่นส่งหน้ากาก ข้าวสารเกรดเอมีลูกค้าถ่ายรูปแชร์ผ่านออนไลน์เป็นการตอกย้ำถึงการใส่ใจบริการของตัวแทน
  3. ช่วงนี้เน้นขายประกันที่เน้นความคุ้มครอง เพราะวิกฤตครั้งนี้ทำให้ลูกค้าหลายคนตระหนักในความไม่แน่นอนของชีวิต
  4. ใช้แอพต่างๆ ในการสื่อสาร เช่น TIKTOK WEIBO WECHAT@ ในการเข้าถึงลูกค้า

ในวิกฤติครั้งนี้ทำให้เราได้ข้อคิดที่ดีที่ว่า

ประกันชีวิตไม่ใช่ ประกันสินค้าที่คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ แต่เป็นสินค้าที่เมื่อถึงวันที่คุณอยากซื้อ ก็ไม่แน่ว่าคุณจะซื้อได้หรือเปล่า ประกันชีวิตชีวิต คือสินค้าที่ต้องมีก่อนใช้ เพราะวันที่คุณจะใช้ ไม่มีบริษัทประกันใดจะขายให้คุณได้ถ้าคุณไม่มีประกัน คุณกล้าการันตีไหมว่า ทั้งชีวิตคุณจะไม่เข้าโรงพยาบาล  ถ้าคุณมีประกันชีวิต หากวันใดที่คุณจำเป็นต้องเข้าไป คุณจะเข้าแบบไร้ความกังวล  

ทำไมเราต้องมีประกัน เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง คุณไม่ต้องเลือกระหว่างรักษาชีวิตหรือรักษาเงิน และเมื่อวันนั้นมาถึงคุณไม่ต้องเลือกระหว่างรักษาศักดิ์ศรีหรือรักษาเงิน

ถ้าคุณไม่วางแผนบริหารความเสี่ยงในวันนี้ วันหนึ่งคุณจะต้องวางแผนบริหารวิกฤติแทน

ความต้องการซื้อสินค้าประกันชีวิต จะยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่การใช้ช่องทางไหนในการซื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลง”

ท่านที่ 2 คือ คุณ ชุติกาจน์ ศรีบุตตะ ( เบนซ์ )

 แปลจากวิทยากรท่านหนึ่งว่า  จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบัน ธุรกิจแทบทุกธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่การออนไลน์ หนีไม่พ้นแม้แต่ธุรกิจประกันชีวิต ที่การสร้างตัวตนหรือแบรนด์บนโลกออนไลน์ก็มีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในวิทยากรของงาน คุณจางฉิน ได้แบ่งปันวิธีการเริ่มต้นสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์จากประสบการณ์ตรง คุณจาง ฉินเข้าอยู่ในธุรกิจประกันเมื่อปี 2014 และมีเคสลูกค้าเฉลี่ยปีละ 200 เคสจากการขายออนไลน์ คุณจาง ฉินย้ำว่าวัตถุประสงค์ของการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ คือการที่ทำให้ลูกค้ารู้ว่าเราอยู่ในธุรกิจนี้อย่างตั้งใจ ไม่ใช่เน้นการขายในช่วงเวลาสั้น การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์เป็นการขายแบบระยะยาวและยั่งยืน

เครื่องมือการขายประกันออนไลน์ที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุดคือ การใช้ วีแชท  คุณจาง เฉินได้บอกถึงวิธีการเริ่มสร้างตัวตนบนออนไลน์อย่างละเอียดอยู่ 2 วิธีหลักๆดังนี้

  1. การขายบนหน้าฟีดวีแชทของตัวเอง
  2. เวลาการโพสต์บนฟีดของตัวเอง

ตอนเช้า 07.00-08.00

ตอนเที่ยง 12.00-14.00

ตอนกลางคืนมี 2 เวลา เลือก 1 เวลา18.00-19.00/21.00-22.00

เนื้อหาที่อยากนำเสนอมากที่สุด แนะนำเป็นช่วงเวลาตอนกลางคืนประมาณ 21.30

  • เนื้อหาหรือคอนเทนต์

เนื้อหาที่โพสต์ต้องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตทั่วไป การทำงาน ทัศนคติดีๆ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน

โพสต์ทุกวันอย่างน้อย 2 โพสต์ สม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  1. ลูกค้าเริ่มทักมาถามเรื่องประกันหรือสอบถามเพิ่มเติม
  2. ลูกค้าเก่าเริ่มมีการบอกต่อ เนื่องจากเห็นความเคลื่อนไหวในอาชีพตัวแทนตลอดเวลาบนหน้าฟีด

ตัวผู้แปลคิดว่า เราสามารถนำเอาวิธีการตรงนี้ มาใช้กับเครื่องมือออนไลน์ของเราแทนได้ เช่น ไลน์ เฟสบุค อินสตราแกรมหรือทวิตเตอร์ ยกตัวอย่างเฟสบุค ที่ตัวผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา มิฉะนั้นเฟสบุคจะปิดกั้นการมองเห็นโพสต์ของเพื่อนในเฟสบุค

  • การขายผ่านฟีดของเพื่อนบนวีแชท
  • ให้สังเกตฟีดวีแชทของเพื่อนอยู่เสมอว่า โพสต์เกี่ยวกับอะไรบ่อยๆ หรือกดถูกใจอะไรบ่อยๆนั่นจะแสดงให้เห็นถึงความชอบ ความสนใจของเค้า
  • ในช่วงแรกให้กดไลค์และคอมเมนต์ในโพสต์นั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน หรืออาจจะชมเชยเมื่อเพื่อนในเฟซบุคโพสต์ความสำเร็จบางอย่าง
  • เมื่อผ่านไปซักระยะหนึ่งให้หัวข้อเพื่อสนทนากับเค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี โดยไม่ขายประกันในช่วงแรก แต่ต้องให้เค้ารับรู้ว่าเราอยู่ในธุรกิจประกัน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

  1. ลูกค้าเป็นฝ่ายเริ่มถามเรื่องเกี่ยวกับประกันเอง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
  2. พยายามให้ความช่วยเหลือเค้าในเรื่องที่เราพอจะช่วยเค้าได้อย่างจริงใจ ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับประกันและไม่เกี่ยวกับประกัน จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจและบอกต่อ

ทำเพิ่มทีละนิดในทุกๆวัน                     คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ

สร้างสิ่งใหม่ทีละนิดในทุกๆวัน            คือจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้นำที่ดี

พัฒนาทีละนิดในทุกๆวัน                      คือจุดเริ่มต้นของความเป็นเลิศ

ถ่อมตัวในทุกๆวัน                                 คือจุดเริ่มต้นของการเป็นที่ยอมรับ

มีวิทยากรอีกหลายท่าน  ที่พูดได้ดีมาก  ถ้านำมาตีพิมพ์ทั้งหมด  เกรงว่าจะอ่านนานเกินไป เอาเป็นว่า อ่านแล้ว หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดสุนิสา  ได้นะคะ ที่โทรศัพท์  081-63036910  สวัสดี

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่