คปภ. ผนึกศูนย์วิชาการจุฬาฯ ศึกษาร่างกฎหมายประกันภัยพืชผลฯ ฉบับแรกของไทย

0
181

         ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยภายหลัง การร่วมประชุม Kick Off โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงทางการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ด้วยการประกันภัย โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาโครงการฯ ว่า ได้รับการชี้แจงถึงรายละเอียดแผนการดำเนินงานตามข้อกำหนดและขอบเขตงานของโครงการ และรับฟังความคิด ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประกันภัยทางด้านเกษตรกรรมทั้งด้านพืชผล ปศุสัตว์ และประมง เช่น การประกันภัยข้าวนาปี การประกันภัยลำไย การประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ การประกันภัยโคนม การประกันภัยเพื่อกลุ่มชาวประมงเรือพื้นบ้าน เป็นต้น ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการศึกษา วิจัย ดำเนินการตามโครงการฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

           จากการที่ระบบประกันภัยได้เข้ามามีบทบาทในการบริหารความเสี่ยงภัยพิบัติที่อาจส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร และภาครัฐเห็นความสำคัญของการนำระบบประกันภัยมาบริหารความเสี่ยง ช่วยลดภาระด้านงบประมาณการช่วยเหลือเยียวยา คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจได้นำเสนอรายงานเรื่องการปฏิรูปประกันภัยการเกษตรต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยให้ภาครัฐมีบทบาทในการสนับสนุนเพื่อให้การประกันภัยด้านเกษตรกรรมมีความยั่งยืน ด้วยโครงสร้างทางกฎหมาย ซึ่งจะกำหนดกรอบภารกิจและความรับผิดชอบ บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน ให้เกษตรกรเข้าถึงได้และเห็นความสำคัญของระบบประกันภัย

          “โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบประกันภัยให้รองรับความเสี่ยงภัยของเกษตรกร ให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจและสามารถบริหารความเสี่ยงภัยจากภัยธรรมชาติ โดยให้บริษัทประกันภัยช่วยรับภาระความเสี่ยงและบริหารความเสี่ยงแทนภาครัฐ ร่วมเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเกษตร และสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยขยายตัวและเติบโต มีระบบประกันภัยสำหรับเกษตรกรที่เหมาะสมกับประเทศไทย มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้านเกษตรกรรมประเภทต่างๆ ที่เหมาะสม รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และพัฒนากรอบแนวทางการจัดทำร่างกฎหมายประกันภัยทางด้านเกษตรกรรม ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีการลงนามในสัญญาร่วมกันกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 โดยกำหนดส่งมอบงานภายใน 365 วันนับถัดจากวันลงนามในสัญญา” เลขาธิการ คปภ.กล่าว

           ที่ผ่านมา การประกันภัยพืชผลทางการเกษตรมีหลายหน่วยงานที่ต้องทำงานเชื่อมโยงกัน และมักจะเกิด pain point ต่าง ๆ เช่น การประกันภัยข้าวนาปี เมื่อมีความเสียหายต้องมีการประกาศภัยพิบัติของจังหวัดจึงจะเข้าหลักเกณฑ์ในการจ่ายสินไหมทดแทน หากมีกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นแต่ทางจังหวัดไม่ประกาศภัยพิบัติ เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการประกาศภัยพิบัติ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ จึงต้องมีการพิจารณาสินไหมทดแทนที่แตกต่างกัน ทำให้เกษตรกรได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเข้าไปอุดช่องว่างให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการประกันภัยทางด้านเกษตรกรรมให้ยั่งยืน อันเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

          “สภาวการณ์ของสภาพภูมิอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรง และเกิดบ่อยครั้งขึ้น เช่น น้ำท่วม ลมพายุ ภัยแล้ง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่มีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก  ดังนั้นการลดความเสี่ยงภัยด้วยระบบประกันภัยจึงมีความสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในการชดเชยเยียวยาเกษตรกรเมื่อพืชผลเกิดความเสียหายจากภัยต่างๆ และที่สำคัญเกษตรกรสามารถนำเงินที่ได้รับจากการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไปดำเนินการเพาะปลูกใหม่ รวมถึงเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่